น.ส.บุญชู กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า ผู้ตายเป็นลูกติดของสามี ส่วนตนเองก็มีลูกติดเป็นลูกสาว และเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา นายธนพล ได้ยืมรถจักรยานยนต์ของเพื่อนออกไปทำธุระแล้วไปเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำเอง บริเวณถนนทางคู่ขนาน ถนนสายเอเชีย แล้วได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยก่อนเกิดเหตุตนเองไม่ทราบว่าลูกชายหายตัวไปไหน และมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ให้มาดูร่างผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล เพราะอาจจะเป็นลูกชายตนเอง จึงเดินทางมาดูพร้อมสามีก็พบว่าเป็นลูกชายของตนเองจริง ทางเจ้าหน้าที่จึงให้ดำเนินการเดินเรื่องติดต่อขอรับศพ พอติดต่อกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็ทราบว่าต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นเงินจำนวน 15,845 บาท ตนเองไม่มีเงิน จึงได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและให้คำตอบว่าจะต้องนำเงินจำนวนดังกล่าวมาติดต่อขอรับศพ จึงขออนุเคราะห์ ขอสงเคราะห์ได้ไหม ทางเจ้าหน้าที่ตอบว่าไม่ได้ ตนเองเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ ไม่สามารถลดหย่อนได้
วันนั้นจึงไม่ได้นำศพลูกชายออกมา และตนเองเกิดอาการเครียด ออกไปหาเงินด้วยการกู้ยืมจากญาติพี่น้อง เพื่อนๆคนแถวบ้าน นำเงินมาขอรับศพ เพื่อนำร่างลูกชายไปบำเพ็ญกุศลที่วัด โดยการจัดงานทั้งหมดมีญาติพี่น้องและเจ้าอาวาสช่วยกันออกค่าใช้จ่ายให้คนละเล็กละน้อย เพราะตนไม่มีเงินแล้ว สิ่งที่ตนเองและครอบครัวติดใจกับทางโรงพยาบาลก็คือว่า ถ้าไม่มีเงินก็ไม่สามารถนำศพลูกชายออกมาได้หรือ และภาครัฐไม่มีความช่วยเหลือผ่อนผันให้กับครอบครัวที่ยากจนเลย ตนเองและสามีไม่มีเงินและเดือดร้อนจริง แต่จะทำอย่างไรได้เพราะมีลูกชายเพียงคนเดียว จึงต้องกู้หนี้ยืมสิน เพื่อนำเงินไปขอรับศพลูกชายกลับมาบำเพ็ญกุศล