เป็นเสียงสะท้อนจากอดีตเลขาธิการคุรุสภา และอดีตเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา หรือ สกสค. ที่พูดตรงกันว่า สองตำแหน่งจากสององค์กรนี้ เป็นที่หมายตาของฝ่ายการเมือง จนเป็นเหตุให้มีการกำหนดเกณฑ์ประเมินผลงานที่ไม่เป็นธรรม นำไปสู่เป้าหมายเลิกจ้าง เสียงสะท้อนนี้ ต้องการให้สังคมได้รับรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในกระทรวงศึกษาธิการ
ส่วนตำแหน่งเลขาธิการ สกสค. ที่ นายธนพร สมศรี ต่อสู้ว่า มีการกำหนดหลักเกณฑ์ไม่เป็นธรรม ทั้งยื่นหนังสือต่อบอร์ด จนถึงขั้นไปทำเนียบรัฐบาลยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ก็จบที่ นายธนพร ลาออกจากตำแหน่ง เพราะไม่สามารถส่งผลงานให้บอร์ดประเมินได้ เนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการขอความเป็นธรรม
ตลอดหนึ่งปีที่ นางสาวตรีนุช เทียนทอง เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีข้อครหาเกี่ยวกับความพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเลขาธิการคุรุสภา และเลขาธิการ สกสค. เพื่อวางคนของตัวเองเข้าไปทำหน้าที่ แต่เจ้าตัวก็ยืนยัน ทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์ประเมิน และการพิจารณาเป็นไปอย่างรอบคอบ ให้ความเป็นธรรม อีกทั้งไม่มีการทบทวนคำขอความเป็นธรรมทั้งของเลขาธิการคุรุสภาและเลขาธิการ สกสค. ในขณะนั้น โดยในส่วนของตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภาจะแต่งตั้งข้าราชการไปปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภาในสัปดาห์นี้ ก่อนเดินหน้าสรรหาเลขาธิการฯ ตัวจริงคนใหม่ ส่วนตำแหน่งเลขาธิการ สกสค. ที่ นายธนพร เพิ่งไขก๊อกลาออกไปเมื่อวันศุกร์ที่ 21 มกราคม ก็ต้องมีการสรรหาใหม่ด้วยเช่นเดียวกัน
หลังจากนี้ จะเกิดอะไรขึ้นกับองค์กรคุรุสภา และ สกสค. ผู้บริหารคนใหม่ที่จะเข้าทำหน้าที่ จะลบคำครหาทำงานใต้ปีกการเมืองได้หรือไม่ สุดท้ายการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ส่งผลอย่างไรกับองค์กร ต้องติดตามต่อไป
