ที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ชุดดับเพลิงจากเทศบาลบ้านไร่ กำลังช่วยกันเร่งดับไฟที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ จากนั้นได้เข้าตรวจสอบเพื่อเก็บรายละเอียดต่างๆเป็นหลักฐาน เพื่อประกอบสำนวน
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีอาคารที่เป็นกุฎิที่พักสงฆ์ ซึ่งเป็นอาคารที่พักของ พระสิทธิวัตร์ ปณญาคโม เจ้าอาวาส ถูกไฟเผาไปจำนวน 1 หลัง มีลักษณะ เป็นอาคาร 2 ชั้น ด้านบนเป็นไม้ ด้านล่างเป็นปูน และเครื่องอัฐบริขารต่างๆ ถูกไฟเผาไหม้เสียหายทั้งหมด ที่สำคัญยังพบว่าพระพุทธรูปทองเหลืองปางค์มารวิชัย พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ที่ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธา ขนาดหน้าตัก 15 นิ้ว ถูกไฟเผาไหม้จนหลอมละลาย พระเศียรหลุดจากบ่า จนชาวบ้านต่างเห็นแล้วอนาถใจ ลักษณะต้นเพลิงน่าจะเกิดบริเวณ หน้าพระประธาน
ด้าน นางยุ่น ค้อนอก อายุ 69 ปี บอกว่า ตนกำลังเตรียมทำกับข้าว จะออกมาทำบุญทีสำนักสงฆ์ทรงธรรม ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวัน ลูกสาวโทรมาแจ้งว่าเกิดเพลิงไหม้สำนักสงฆ์ จึงรีบขับรถจักรยานยนต์ออกมาดูกับเพื่อนบ้าน เมื่อมาถึงพบว่ามีชาวบ้านและรถดับเพลิงมาถึงก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งตนมั่นใจว่าการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ ไม่น่าจะเกิดมาจากสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร หรือการจุดธูปเทียนทิ้งไว้ แต่มีความมั่นใจว่า น่าจะเป็นวัยรุ่นในหมู่บ้าน ที่เสพยาบ้าจนเกิดอาการหลอน
โดยขณะนี้ผู้ต้องสงสัยที่ชาวบ้านสงสัยยังหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าข้างสำนักสงฆ์ ภายในหมู่บ้าน ซึ่งตนได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว และตนไม่ขอพูดอะไรมากไปกว่านี้ เนื่องจากกลัวจะเป็นภัยกับตัวเอง เนื่องจากผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าว เคยจุดไฟเผาป่าข้างวัดมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จนเกิดไฟไหม้ป่าเป็นบริเวณกว้าง โดยตำรวจกำลังประสานญาติพี่น้องเพื่อขอให้บุคคลดังกล่าวมาสอบปากคำ และเปิดโอกาสให้แสดงตนเพื่อแสดงความบริสุทธ์ใจ
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบภายในสำนักสงฆ์ พบว่ามีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ แต่ผู้ที่จะสามารถเปิดดูได้มีเพียงเจ้าอาวาสวัดเท่านั้น ซึ่งขณะนี้เดินทางไปกิจนิมนต์ต่างจังหวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งขอตรวจสอบ เพื่อประกอบสำนวน และหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป