เมื่อถึงคราวมรสุมรุมเร้า ก็ทำเอาชีวิตของหญิงอายุ 52 ปี อย่าง "ป้าสมจิตร์" แทบทรุด ทั้งสุขภาพและความเป็นอยู่ เงินทองที่เคยเก็บหอมรอมริบมา ต้องหมดไปกับค่ารักษาตัว ร่วม ๆ 3 ปีมาแล้ว ที่ทนทุกข์ทรมานกับอาการป่วยของโรคมะเร็งกระดูก
ก่อนหน้านี้ ป้าสมจิตร์ เคยแข็งแรง เป็นคนขยัน รับจ้างทำงานสุจริตทุกอย่าง เพื่อเลี้ยงปากท้อง อยู่แบบพอมีพอกินตัวคนเดียว เพราะแยกทางกับสามี ส่วนลูกก็แยกไปมีครอบครัว กระทั่งมาล้มป่วยหนัก เริ่มทำอะไรไม่ค่อยไหว พยายามฝืนทน ก็พบแต่ความเจ็บปวด
ตอนนี้รายได้เป็นศูนย์ ค่าเช่าบ้านยังไม่มีจ่าย งานไม่ได้ทำ ไม่อยากรบกวนลูก เพราะลูกของป้าก็ตกงานมาจากพิษโควิด-19
และแม้จะมีสิทธิรักษาฟรี แต่เมื่อหมอถามว่าสะดวกจะให้จ่ายยานอกด้วยหรือไม่ ป้าต้องปฏิเสธไป เพราะไม่มีเงิน
ยิ่งเวลาผ่านไป อาการของป้าสมจิตร์ก็ยิ่งทรุด แค่เดินเหินบางครั้งก็ยังพยุงตัวเองแทบไม่ไหว ขณะที่ผู้เป็นแม่อายุ 89 ปี ทนเห็นลูกสาวเผชิญชะตากรรมคนเดียวแบบนี้ไม่ได้ จึงมาอยู่เป็นเพื่อน คอยช่วยเหลือเท่าที่แรงกำลังจะสู้ไหว ทั้งที่ตัวเองก็ป่วยเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว
สุดสะเทือนใจ แทนที่ลูกจะเป็นฝ่ายได้เลี้ยงดูแม่วัยชรา กลับต้องมาเป็นผู้ป่วยให้แม่คอยดูแล หวังก็แต่เพียงว่า หากมีโอกาสหายป่วยเมื่อไหร่ คงจะได้เป็นฝ่ายตอบแทนพระคุณบุพการี
น้ำใจ ยิ่งให้ยิ่งได้