กรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร นำปัญหาสะพานข้ามทางรถไฟ หารือที่ อบต.ป่าไก่ เพื่อร่วมหาทางออก โดยมีบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล โดยเฉพาะตัวแทนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นทีมวิศวกร
ตัวแทนการรถไฟแห่งประเทศไทย มองทางออกของเรื่องนี้ คือการเจรจา เพราะที่ดินที่เป็นปัญหาตรงหัวสะพาน เจ้าของอนุโลมให้ผ่านที่ดินได้ แต่ห้ามเทถนนตัดที่ดินของตัวเอง ทำให้การก่อสร้างต้องคำนึงถึงลักษณะทางกายภาพชุมชน จึงใช้ประโยชน์ได้ในวงจำกัด ที่สำคัญ ไม่ต้องการเข้าสู่กระบวนการเวนคืน
แต่เรื่องนี้ในวงพูดคุยค่อนข้างดุเดือด เพราะกรรมาธิการบางคนไม่เห็นด้วยที่จะมาอ้างเรื่องเวนคืน เนื่องจากเห็นว่าปัญหาทั้งหมดจะไม่เกิดขึ้นหากพูดคุย และตรวจสอบให้ดี นี่จึงเป็นเรื่องที่รัฐไปละเมิดชาวบ้าน โดยเล็งเห็นผลแต่แรก
เบื้องต้น อบต.ป่าไก่ แนะให้ เร่งแก้ปัญหาพื้นที่สะพาน การขยับแนวรั้วการรถไฟจากเดิม 5 เมตร เข้าไปอีก 2-3 เมตร ไม่ให้ปิดแนวถนนทางไปนา จุดอุโมงค์ลอดที่ไว้ระบายน้ำ และให้คนเดินผ่านได้ต้องปรับปรุง คลองระบายน้ำข้างรางรถไฟ ต้องทำทางน้ำใหม่ ซึ่งปัญหาทั้งหมดจะถูกส่งต่อมาที่ กมธ. ป.ป.ช.สภาผู้แทนราษฎร ภายใน 7 วัน หลังชาวบ้านและการรถไฟหารือกัน หากมีปัญหาไม่สามารถแก้ไขได้กรรมาธิการ จะประสานรัฐบาลถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบทันที
ส่วนปัญหาการใช้งบประมาณสิ้นเปลือง หรือเข้าข่ายความผิดใดหรือไม่ อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ระบุว่า หลักของการพัฒนาคือทุกคนต้องได้ประโยชน์อย่างเท่าเทียม ส่วนจะไปถึงเรื่องการทุจริตหรือไม่ ส่วนตัวมองว่า เป็นการใช้งบประมาณโดยไม่รัดกุมเท่านั้น
นี่เป็นโครงการที่สะท้อนให้เห็นว่า การพัฒนาประเทศก็สำคัญ แต่ชุมชนรอบข้างการพัฒนาก็ต้องไม่ถูกมองข้าม ที่สำคัญมีโครงการลักษณะนี้อีกจำนวนมาก ซึ่งอาจไปละเมิดสิทธิ์ของชาวบ้าน การทำความเข้าใจและตรวจสอบก่อนจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเราจะติดตามผลสรุปจากกรรมาธิการชุดนี้มานำเสนอต่อไป