นัดแรกของการประชุมคณะกรรมการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการจัดการสถานการณ์โรคโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น ได้มีการประเมินสถานการณ์โควิด-19 พบมีแนวโน้มลดลงมาอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และอยู่ในระยะทรงตัวอีกทั้งประชาชนมีภูมิคุ้มกันมากเพียงพอที่จะเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น หรือโรคติดต่อทั่วไปได้
พร้อมเดินหน้าฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ได้ 60% ของประชากร เน้นเฝ้าระวังการระบาดเป็นกลุ่มก้อน และเน้นสร้างความรู้ความเข้าใจในการใช้ชีวิตอยู่กับโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัย
เมื่อสถานการณ์เข้าสู่ระยะโรคลดลง จะประกาศลดระดับการเตือนภัย จากระดับ 3 เป็นระดับ 2 ซึ่งจะมีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ให้ประชาชนใช้ชีวิตเป็นปกติมากขึ้น
นอกจากนี้ ในการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันที่ 20 พฤษภาคมนี้ จะเตรียมเสนอมาตรการคลายล็อกสถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ ด้วย
ความพร้อมการเปิดเทอม วันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ของโรงเรียนกว่า 35,000 โรงเรียนทั่วประเทศ ศบค. รายงานผลการตรวจสอบ พร้อมที่จะเปิดเรียนออนไซต์ให้เด็กไปโรงเรียน มีจำนวน 4,924 แห่ง นอกจากนั้นจะผสมผสานรูปแบบเรียนออนไลน์ ตามพื้นที่สถานการณ์และติดตามให้นักเรียนฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ครบตามเกณฑ์มากที่สุด
กราฟผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน มีแนวโน้มลดลง ศบค. รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่ 8,019 คน ที่ตรวจยืนยัน PCR และยังมีอีก 7,940 คน ที่เป็นผู้ติดเชื้อเข้าข่ายตรวจจาก ATK รวมผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ทั่วประเทศกว่า 77,000 คน
ขณะที่ สถานการณ์ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายวัน มี 59 คน ทั้งหมดฉีดวัคซีนไม่ถึงเข็มกระตุ้น อายุน้อยที่สุดเป็นเด็กอายุ 6 ขวบ และมากที่สุด อายุ 96 ปี พื้นที่ของผู้เสียชีวิตวันนี้พบว่าอยู่ในภาคอีสานรวม 21 คน ส่วนปัจจัยเสี่ยงยังมาจากโรคมะเร็ง โรคไต โรคอ้วน หลอดเลือดสมอง หัวใจ และผู้ป่วยติดเตียง