เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา มี ชายหญิงลักษณะเป็น สามีภรรยากัน ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาซื้อข้าวแกงที่ร้านใส่ถุงจำนวนหลานอย่าง คิดเป็นเงินประมาณ 400 กว่าบาท ระหว่างที่ตนกำลังตักแกงให้ ผุ้หยิงที่มาด้วยกันได้เดินไป พร้อมกับบอกว่าจะไปซื้อโจ๊กอีกร้านหนึ่ง พอตักแกงใส่ถึงเสร็จคิดเงินส่งให้ผู้ชาย ผู้ชายบอกว่าเงินอยู่ที่ภรรยา เดียวเอาเงินมาให้ ตนระวังอยู่แล้ว เพราะมีแม่ค้าด้วยกันเตือนมาแล้วให้ระวังพฤติกรรมแบบนี้
ตนจึงได้หันไปมองที่ร้านโจ๊ก จังหวะนั้นเองผู้ชายได้คว้าเอาถุงแกงขับรถจักรายานยนต์หลบหนีไป ช่วงนั้นมีลูกค้ารอซื้อข้าวแกงอยุ่พอดีจึงขอให้ช่วยขับติดตามไป พร้อมกับถ่ายคลิปไปด้วยจนไล่ทัน สองสามีภรรยาได้โยนถุงแกงทิ้งบริเวณกลางสะพาน เอกาทศรถ ข้ามแม่น้ำป่าสักก่อนขับรถหลบหนีไป
เหตุการณ์ดังกล่าว ตนเองไม่คิดว่าจะมีพวกมิจฉาชีพมาก่อเหตุแบบนี้ทั้งที่ตอนนี้เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี มาโดนหลอกโดนโกงแบบนี้ เสียทั้งของ กำไรก็ไม่ได้ เพราะมูลค่ามากสำหรับพ่อค้าแม่ค้าได้พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าหลายคน โดนชายหญิง รูปร่างลักษณะเดียวกันก่อเหตุแบบนี้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุมตัวเพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุกับคนอื่น
นายฐิติวัสส์ กรึงไกร อายุ 19 ปี พลเมืองดีที่ขับขี่รถจักรายานยนต์ ตามชายหยิงที่ก่อเหตุไป เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเองมาซื้อข้าวแกงอยู่ที่ร้านพอดี เห้นเหตุการณืและเจ้าของร้านร้อขอความช่วยเหลือ จึงขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามไป จนถึงกลางสะพาน เอกาทศรถ ข้ามแม่น้ำป่าสัก เรียกให้จอดแต่ไม่ยอมยอมจึงขับแซงไปวางจนยอมจอด ได้โยนกลางถุงแกงทิ้งกลางถนนแล้วขับรถหลบหนีไปซึ่งตนเองได้ถ่ายคลิปเห็น สองสามีภรรยาอย่างชัดเจน พร้อมกับแผ่นป้ายทะเบียนแล้วนำแกงมาคืนแม่ค้า ขณะนั้นไม่ได้คิดอะไรถึงความปลอดภัยคิดว่าเราต้องช่วยเหลือทางร้าน คนร้ายไม่น่าจะมีอาวุธอะไร
ทางเจ้าของร้านข้าวแกง ได้มอบข้าวแกงจำนวน 1 ชุดให้ นายฐิติวัสส์ อายุ 19 ปี พลเมืองดี เพื่อเป็นรางวัล พร้อมกับกล่าวขอบคุณ ที่ช่วยตามคนร้ายถึงจับตัวไม่ได้แต่ได้ของ คืนมาบ้างเสียหายไปบ้าง