ซึ่งพบกรงเลี้ยงสัตว์หลากหลายชนิด สภาพทรุดโทรม มีสัตว์เลี้ยงนานาชนิดจำนวนมาก ทั้งสัตว์ป่าคุ้มครอง และไม่คุ้มครอง มีนายเคียง อายุ 67 ปี ชาว ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา เจ้าของบ้าน โดยนายเคียงฯ สารภาพว่า เปิดลักลอบค้าสัตว์ป่ามานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยเปิดเป็นแหล่งพักเลี้ยงและค้าสัตว์นานาชนิด จนกลายเป็นรายใหญ่ ซื้อสัตว์ป่ามาจากคนขายในพื้นที่เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร แล้วนำมาส่งให้ที่บ้าน เช่น นกกาฮัง 6 ตัว ซื้อมาตัวละ 6,000 บาท นกเงือกกรามช้าง 2 ตัว ซื้อมาตัวละ 8,000 บาท และลูกเสือโคร่ง 2 ตัว วัย 3 เดือน เพศผู้ชื่อ เจ้าโฟกัส และเพศเมีย ชื่อ เจ้าวีด้า ซื้อมาในราคาตัวละ 150,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีนกมาร์คอ เมียร์แคทนับร้อยตัว นกกระตั้ว จระเข้ นกแก้วหลายสายพันธุ์ รวมๆมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้าน เพื่อส่งขาย
และจากการสอบสวนเพิ่มเติม ล่าสุดทราบว่า ลูกเสือโคร่ง 2 ตัว ได้ซื้อต่อมาจากนายพราน ที่ลักลอบล่าสัตว์ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในราคาตัวละ 150,000 บาท เตรียมส่งขายให้ลูกค้าต่างประเทศ ได้ราคาสูงถึงตัวละ 4 แสนบาท เป็นตัวเลขที่จูงใจอย่างมาก แต่ก็มาถูกจับกุมได้เสียก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ฯ ได้แจ้ง 2 ข้อหาใหญ่ ฐานกระทำความผิดพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 17 ฐานร่วมกันมีสัตว์ป่าคุ้มครอง และซากของสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครอง โดยไม่ใต้รับอนุญาตจากอธิบดี อัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผิดตามมาตรา 29 ข้อหาร่วมกันค้าสัตว์ป่าคุ้มครองและซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี อัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 10ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งได้เคลื่อนย้ายสัตว์ป่าทั้งหมดไปให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) กรมอุทยานฯ ตรวจสอบ และอนุบาลดูแลแล้ว .