สำหรับการเข้าเยี่ยมคารวะฯ ในครั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี (พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ) พร้อมด้วยนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.รง. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. พล.ต.อ. ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และอธิบดีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ชี้แจงความก้าวหน้าของไทยในการแก้ไขปัญหาประมง IUU ในด้านต่าง ๆ โดยในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา ไทยได้ร่วมมือกับอีเจเอฟ อย่างต่อเนื่อง เช่น การร่วมตรวจสอบเรือประมงและส่งเป้าสงสัยในพื้นที่มายังกรมประมง การร่วมสังเกตการณ์ในการตรวจสอบเรือแจ้งเข้า-ออกของศูนย์ควบคุม การแจ้งเรือเข้าออก การขึ้นท่าสัตว์น้ำ การตรวจแรงงานที่ท่าและกลางทะเลของเรือตรวจการ นอกจากนี้ กรมประมงยังได้จัดทำโปสเตอร์และแผ่นพับประชาสัมพันธ์แนวปฏิบัติเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และแนวปฏิบัติกรณีลูกเรือเกิดอุบัติเหตุ โดยได้จัดทำทั้งภาษาไทยและอังกฤษ และได้รับการสนับสนุนจากอีเจเอฟในการจัดแปลแนวปฏิบัติดังกล่าวเป็นภาษากัมพูชา และเมียนมา ทั้งนี้ ในระดับภูมิภาค ในระดับภูมิภาค ไทยได้ร่วมมือกับประเทศในอาเซียนในการต่อต้านการทำประมงไอยูยูผ่านศูนย์เครือข่ายอาเซียน โดยได้พัฒนาระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการประมงออนไลน์ ซึ่งได้นำเสนอให้ประเทศสมาชิกอาเซียนรับทราบในการประชุมผู้ประสานงานหลักของเครือข่ายอาเซียนเพื่อต่อต้านการประมงไอยูยู ครั้งที่ ๑ เมื่อปี ๒๕๖๓
นายเทรนท์ ได้ชื่นชมความพยายามของรัฐบาลไทย และความก้าวหน้าของการแก้ไขปัญหาอันเป็นที่ประจักษ์อย่างเป็นรูปธรรมมากมายหลายด้าน ภายใต้การกำกับดูแลของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อีกทั้งเชื่อมั่นว่า ไทยสามารถเป็นตัวอย่างของการแก้ไขปัญหาประมง IUU ที่ดีของภูมิภาค และสามารถขยายไปสู่การเป็นผู้นำระดับโลกได้ด้วย ซึ่งมูลนิธิ EJF พร้อมจะสนับสนุนไทยในการแก้ไขปัญหาประมง IUU เพื่อให้ไทยสามารถบรรลุเจตนารมณ์ของการเป็นประเทศปลอดจากการประมง IUU และเป็นแกนนำขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในระดับภูมิภาคที่ปลอดจากประมง IUU ของอาเซียนต่อไป