สถานการณ์การสู้รบที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา ในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง เขตจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้ามกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เมื่อเช้ามืดเมื่อวาน (19 พ.ค.) ที่ผ่านมาได้มีเครื่องบินรบจำนวน 1 ลำ ได้ทำการบินวนเหนือแนวชายแดนอำเภอแม่สอด ก่อนมีการทิ้งระเบิดในพื้นที่เชิงภูเขาใส่ทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ที่ซ่อนตัวอยู่ในป่า โดยเครื่องบินทำการโจมตีจำนวน 2 เที่ยวบิน ซึ่งเสียงเครื่องบินก็ทำให้ชาวบ้านหลายคนที่กำลังนอนหลับในบ้านต้องสะดุ้งตื่น เพราะเสียงเครื่องบินที่บินต่ำและเสียงระเบิดที่ดังสนั่นเข้ามาถึงตัวอำเภอแม่สอด แต่การโจมตีไม่มีผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย
โดยตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีการสู้รบระหว่างทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู และทหารเมียนมา อย่างหนักและต่อเนื่องกันมา มีรายงานว่าทหารทั้งสองฝ่ายมีความสูญเสียค่อนข้างมาก โดยทหารเมียนมาเบื้องต้นเสียชีวิต10 นาย ส่วนทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู เสียชีวิต 3 นาย และได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 นาย ซึ่งตัวเลขความสูญเสียของทหารทั้งสองฝ่ายอาจจะมีมากกว่านี้ หากการยิงปะทะยืดเยื้อ
การสู้รบของทั้งสองฝ่ายทำให้มีชาวบ้านฝั่งเมียนมาจำนวนไม่น้อย ซึ่งมีบ้านเรือนอยู่ในพื้นที่สู้รบต้องหนีตายอพยพข้ามมาขอหลบภัยในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ที่สำนักสงฆ์บ้านมอเกอร์ไทย ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ล่าสุดเสียงปืนจากการปะทะเงียบสงบลง ทำให้มีผู้อพยพจำนวน 138 คน สมัครใจขอเดินทางกลับมาตุภูมิในฝั่งเมียนมา แม้ในพื้นที่ยังคงไม่ปลอดภัย แต่ผู้อพยพห่วงทรัพย์สินของมีค่าที่อาจจะสูญหาย เนื่องจากไม่มีใครอยู่เฝ้าบ้านในพื้นที่
ส่วนฝ่ายไทย เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มวงดในการลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนอำเภอพบพระ จังหวัดตาก อย่างเข้มงวด