ข่าวในพระราชสำนัก

สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงออกหน่วยแพทย์พระราชทานโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เป็นวันที่ 2

เวลา 08.23 น. วันนี้ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยังศูนย์กีฬาสะพานหิน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทรงออกหน่วยแพทย์พระราชทานโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เป็นวันที่ 2 เพื่อช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาล ป้องกันโรค ส่งเสริม และฟื้นฟูสุขอนามัยของประชาชน ตลอดจนป้องกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์เลี้ยง และสัตว์จรจัด ไม่ให้แพร่ระบาดสู่คน ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ในการนี้ ทรงฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัข จำนวน 3 ตัว

จากนั้น ทรงวางยาสลบเพื่อทำหมันสุนัข จำนวน 10 ตัว ร่วมกับหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ซึ่งโปรดให้ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โรงพยาบาลสัตว์ทิพย์พิมาน สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ต สำนักงานปศุสัตว์เขต 8 และสำนักงานปศุสัตว์ในพื้นที่เขต 8 จำนวน 9 จังหวัด ออกหน่วยจัดกิจกรรมสัญจรอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อยับยั้งการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ โรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคติดต่อระหว่างสัตว์สู่คน เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญของชาติ ที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไข สาเหตุสำคัญที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต คือ การขาดการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายของโรคในสัตว์ โดยเฉพาะสุนัขและแมวจรจัดไร้ที่พึ่ง ที่มีการขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว สำหรับกิจกรรมการออกหน่วยสัตวแพทย์วันนี้ ประกอบด้วย การให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ มีประชาชนนำสุนัขและแมวเข้ารับบริการทั้งหมด 79 ตัว และการผ่าตัดทำหมันควบคุมประชากรสุนัขและแมว จำนวน 155 ตัว

นอกจากนี้ โปรดให้หน่วยแพทย์พระราชทานโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ไปออกหน่วยให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป พร้อมให้คำแนะนำในการป้องกันโรคและดูแลสุขภาพแก่ประชาชน ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต, ศูนย์บริการสาธารณสุข กองการแพทย์ เทศบาลนครภูเก็ต และโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โดยมีผู้เข้ารับบริการ รวม 175 คน ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ รองลงมา คือ โรคระบบประสาท มีผู้ป่วยส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต 12 คน ยังความซาบซึ้งและสำนึกในพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงห่วงใยสุขภาพอนามัยของประชาชน พร้อมกับพระราชทานความช่วยเหลือให้สามารถเข้าถึงบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

ข่าวอื่นในหมวด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง