นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "พระบิดา พระองค์ลงทุนแจ้งความจับผู้ว่าฯ ชัยภูมิ นับเป็นความภาคภูมิใจในชีวิตรับราชการอย่างยิ่ง" โดยโพสต์นี้เกิดขึ้นภายหลัง พระบิดา มอบหมายให้ทนายความเข้าแจ้งความตำรวจ สภ.คอนสาร ดำเนินคดีกับผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ในข้อหาบุกรุกเคหสถาน และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีนำกำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง บุกเข้าตรวจค้น และจับกุมภายในสำนักปฏิบัติธรรมโนนจำปา
และหลังจากมีการโพสต์ข้อความดังกล่าว ทีมข่าวช่อง 7HD ได้พูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ผ่านระบบวิดีโอคอล ได้รับการยืนยันว่า ไม่หนักใจหรือกังวลใด ๆ กับการแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว เพราะเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ส่วนจะเข้าข้อกฎหมายใดขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน พร้อมมั่นใจว่าการปฏิบัติหน้าที่ว่าเป็นไปด้วยความถูกต้อง ตรงไปตรงมา ตามขั้นตอนกฎหมาย อีกทั้งการเข้าตรวจค้นก็ดำเนินการตามหมายศาล และทำอย่างละมุนละม่อม ให้เกียรติสถานที่ โดยมีการตรวจยึดเฉพาะสิ่งของที่ผิดกฎหมายเท่านั้น
ขณะที่ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ได้ออกมาชี้แจงผลตรวจผลิตภัณฑ์อาหารของพระบิดา ว่า พบเชื้อราเกินเกณฑ์มาตรฐานกำหนด และมีเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคระบบทางเดินอาหารที่รุนแรง ถึงขั้นติดเชื้อในกระแสเลือดได้ และอาจทำให้ถึงแก่ชีวิต
โดยผลตรวจดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำตัวอย่างอาหารมาตรวจสอบ พบว่าส่วนใหญ่ไม่ได้ขออนุญาตในการผลิต และพบมีการใช้ฉลากอาหารไม่ถูกต้อง โดยได้ดำเนินคดีกับ นายทวี หนันลา อายุ 75 ปี หรือ พระบิดา ตามความผิด พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ 2522