เมื่อวานนี้ ผู้ปกครองนักเรียน รวมทั้งผู้นำศาสนา และภาคประชาสังคม ในจังหวัดปัตตานี กว่า 30 คน เดินทางมาที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี เพื่อร่วมลงชื่อประท้วงและขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลปัตตานี โดยระบุว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนไม่เคารพสิทธิขั้นพื้นฐานของการเป็นพลเมืองไทย หลังจากที่ไม่อนุญาตให้เด็กนักเรียนหญิงสวมผ้าคลุมผมไปโรงเรียน และอ้างว่าโรงเรียนตั้งอยู่ในพื้นที่เขตธรณีสงฆ์ของวัด
โดยเรื่องนี้สืบเนื่องจากเมื่อปี 2561 ผู้ปกครองนักเรียนรวมตัวกันยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลปกครอง เพื่อให้คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของเด็กตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ ในการปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลาม เพราะโรงเรียนดังกล่าวไม่อนุญาตให้นักเรียนชาวไทยมุสลิมคลุมผมด้วยชุดฮิญาบเข้าเรียน กระทั่งเมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ศาลปกครองจังหวัดยะลา มีคำสั่งให้ผู้ปกครองเป็นฝ่ายชนะคดี
แต่เหตุการณ์นี้กลับไม่จบ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมานี้ โรงเรียนอนุบาลปัตตานี ออกคำสั่งจากมติที่ประชุมให้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด โดยไม่ให้เด็กคนอื่น ๆ แต่งกายชุดฮิญาบตามข้อกำหนดของศาสนาอิสลามได้ จนกว่าจะมีคำพิพากษาจากศาลอุทธรณ์สูงสุด หรือมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์คดี ยกเว้นผู้ฟ้องคดีทั้ง 20 คน เท่านั้น
จากมติของโรงเรียนอนุบาล เหตุการณ์นี้กลายเป็นชนวนเหตุให้ผู้ปกครองเกิดความไม่พอใจ จึงรวมตัวเพื่อทำหนังสือขับไล่ดังกล่าว พร้อมยกตัวอย่างโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกรุงเทพมหานคร ที่มีนักเรียนหญิงมุสลิม 1 คน ที่ต้องการคลุมฮิญาบ ซึ่งสามารถทำได้ โดยโรงเรียนก็ยินยอม และชื่นชม เพราะถือเป็นการยืนหยัดและการรักษาศาสนา ให้เด็กมีสิทธิในการแต่งกายตามหลักศาสนาอิสลาม
โรงเรียนอนุบาลปัตตานี ยังเปิดให้เรียนตามปกติ แต่ไม่อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรวมถึงทีมข่าวเข้าไปในโรงเรียน เราพยายามจะติดต่อขอสัมภาษณ์ผู้อำนวยการโรงเรียน แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าผู้อำนวยการโรงเรียนติดภารกิจ พร้อมทั้งระบุว่า มติของโรงเรียนยังดำเนินตามเดิมที่โรงเรียนได้ยื่นอุทธรณ์ไว้ ไม่อนุญาตให้เด็กคนอื่น ๆ สวมฮิญาบ