วัคซีนฝีดาษ ที่แช่แข็งเก็บไว้ในลักษณะผง หรือ Freeze Dry มีประมาณ 10,000 โดส กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้นำมาตรวจ เป็นวัคซีนเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ ถูกนำมาน็อกให้หมดฤทธิ์ และตรวจเพาะเชื้อ พบว่าเชื้อโตเร็วมาก หรือเชื้อยัง Active ยังใช้ได้ ทั้งที่ผ่านมา 43 ปี
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยการตรวจสอบคุณภาพของวัคซีน ต้องใช้เวลาอีกระยะ เพื่อให้ทราบว่าวัคซีนยังมีคุณภาพหรือไม่ มีความปลอดภัย มีเชื้อปนเปื้อน และองค์ประกอบทางเคมีเปลี่ยนไปหรือไม่ ที่สำคัญยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้หรือไม่ด้วย เพราะข้อมูลการปลูกฝีดาษคน (Smallpox) ที่ไทยหยุดปลูกฝีไปเมื่อปี 2523 ซึ่งระบุว่า ป้องกันได้ 85% เป็นข้อมูลเก่า แต่ไวรัสฝีดาษลิง หรือ monkeypox ยังไม่พบในไทย
เป็นการศึกษาทดสอบเตรียมพร้อมด้านวัคซีนที่เกี่ยวข้องกับโรคฝีดาษ นำมาวิเคราะห์ วิจัย นำมาใช้ประโยชน์ได้ พึ่งพาตัวเองได้ในทรัพยากรที่มีอยู่ รองรับสถานการณ์ในกรณีโรคฝีดาษลิง เป็นโรคติดต่อร้ายแรงขึ้นมา
ล่าสุด ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ ตรวจสอบพบนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางมาจากทวีปแอฟริกา มีอาการเข้าข่ายโรคฝีดาษลิง ส่งตัวไปตรวจรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ผลตรวจออกมาเป็นเริม ไม่ใช่ฝีดาษลิง
องค์การอนามัยโลก เรียกร้องให้นานาชาติเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง หลังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง มากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก มีการรายงานผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 344 คน มากสุดที่ สเปน 120 คน อังกฤษ 77 คน ตามมาด้วยโปรตุเกส แคนาดา และเยอรมนี