ที่เกิดเหตุพบศพ นายสุวิทย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ถูกแทงเสียชีวิตอยู่ที่ข้างบ้าน จากการชันสูตรพบ ถูกแทงที่หน้าอกขวา 1 แผล ซอกคอข้างซ้าย 2 แผล หัวไหลซ้าย 1 แผล หน้าท้อง 1 แผล จนไส้ทะลัก รวม 5 แผล ส่วนมืดมีดคือ นายสมจิตร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี พ่อผู้ตาย นั่งรอมอบตัวอยู่ในที่เกิดเหตุ
พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนนายสมจิตร เล่าว่ามีอาชีพรับจ้าง ส่วนลูกชายไม่มีครอบครัว อาศัยอยู่กับพ่อแม่ มีพฤติกรรมเสพยาบ้าจนหลอน มีอาการทางประสาท คลุ้มคลั่งอาละวาดและทำร้ายพ่อแม่ ซึ่งพ่อจะโดนทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ จนเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าลูกชายได้อาละวาดเผาที่นอนตัวเองอยู่บนชั้นสองของบ้าน ซึ่งพ่อกับแม่ได้ช่วยกันดับไฟได้ทัน และได้ด่าลูกชายด้วยความโกรธ เพราะกลัวไฟจะไหม้บ้าน จากนั้นลูกชายได้หลบหนีออกจากบ้านไป
กระทั่งช่วงค่ำลูกชายกลับมาบ้าน พร้อมกับถือท่อนไม้ไผ่ประมาณ 1 เมตร เข้ามาทำร้ายพ่อ ซึ่งพ่อก็ระมัดระวังตัวอยู่แล้ว พอลูกชายใช้ไม้ตีก็ใช้มือรับ และต่อสู้กับลูกชาย ก่อนจะใช้มีดยาวประมาณ 30 ซม.ที่พกไว้ป้องกันตัว ออกมากระหน่ำแทงลูก 5 แผล จนไส้ทะลักนอนเสียชีวิตอยู่ข้างบ้าน พร้อมกับบอกว่า รู้สึกเสียใจ ตกใจ และทำใจไม่ได้ที่ต้องฆ่าลูกตัวเอง แต่ที่ต้องทำเพราะโดนลูกทำร้ายร่างกายตลอด ครั้งนี้ก็รู้ว่าต้องโดนลูกทำร้ายอีกแน่นอน จึงพกมีดไว้ป้องกันตัว ไม่ได้ตั้งใจฆ่าลูก
สำหรับผู้ตาย เสพยาบ้าจนมีอาการทางประสาทและเพี้ยน ชอบทำร้ายร่างกายพ่อแม่ประจำ แต่พ่อจะโดนทำร้ายมากกว่า ได้รับบาดเจ็บจนเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และตำรวจได้รับแจ้งไประงับเหตุประจำ เคยจับกุมดำเนินคดีทำร้ายร่างกายพ่อ เมื่อพ้นโทษออกมาก็คลุ้มคลั่งอาละวาดอีก กระทั่งครั้งนี้มาถูกพ่อแทงเสียชีวิต ซึ่งพ่อก็รับสารภาพว่าแทงลูกจริง แต่ทำไปเพราะป้องกันตัว แต่พ่อได้แทงลูกหลายแผล ตำรวจได้แจ้งข้อหาพ่อ “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” และปฏิเสธการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะยังทำใจไม่ได้ ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย