เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบเเสงเพลิงและกลุ่มควันเป็นจำนวนมากภายในร้านลักษณะอาคารบ้านเดี่ยวเป็นปูน 2 ชั้น แสงเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากด้านในร้านบริเวณชั้นล่างของตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครจึงเร่งรัดจัดวางหัวจ่ายฉีดน้ำดับเพลิงอย่างเร่งด่วนเพื่อระงับเหตุทันที ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เพลิงจึงสงบ ก่อนที่จะเข้าตรวจสอบพื้นที่ พบว่าบริเวณห้องโถงกลางชั้นล่างเสียหายทั้งหมด มีกล่องสีเขียวบรรจุน้ำมัน 6 ลิตร ตกอยู่บริเวณใกล้จุดที่เกิดเหตุ ใกล้กันมีไฟแช็กตกอยู่ด้วย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
จากการสอบถาม น.ส.ฉวีวรรณ ทัดไทยสง อายุ 42 ปี ผู้จัดการร้านเปิดเผยว่า หลังจากปิดร้านช่วงประมาณเที่ยงคืน ซึ่งปกติจะนอนพักที่ร้าน แต่วันนี้มีธุระที่วัดย่านพระราม 3 จึงเดินทางกลับบ้านช่วงประมาณ 02.00-03.00 น. ก่อนที่จะมีคนโทรศัพท์มาหา แจ้งเหตุไฟไหม้ให้ทราบ จึงรีบเดินทางกลับมา ระหว่างนั้นได้โทรศัพท์แจ้งแม่ครัวให้เข้าตรวจสอบก่อนเพราะที่พักอยู่ใกล้กับร้าน เมื่อเดินทางมาถึงก็พบเจ้าหน้าที่มาดับเพลิงแล้ว มีโซฟาที่ถูกไฟไหม้และกระจกแตกด้านข้างร้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ มีชายคนหนึ่งลักษณะมึนเมา เดินมานั่งที่โต๊ะบริเวณด้านนอกของร้าน เมื่อพนักงานถามว่าจะสั่งเครื่องดื่มอะไรหรือไม่ ชายคนดังกล่าวก็ไม่สั่งอะไร จนมีลูกค้าโต๊ะอื่นเกิดความรำคาญจึงเชิญออกไป แต่อีกฝ่ายไม่ยอมออกจนร้านปิด ชายคนดังกล่าวจึงเดินออกไป แต่ก็เดินวนกลับเข้ามาอีก แฟนจึงดึงตัวชายคนดังกล่าวเพื่อไม่ให้เข้ามาในร้านอีกจนอีกฝ่ายเซล้มลง ก่อนจะลุกคนแล้วเดินออกไป จังหวะนั้นสังเกตเห็นกระเป๋าเงินตกอยู่ จึงหยิบขึ้นมาถ่ายรูปบัตรประชาชนเอาไว้ แล้วโยนไว้ที่ต้นไม้ ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะวนกลับมาเก็บกระเป๋าเงินไป จึงตั้งข้อสังเกตว่าเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นอาจเป็นฝีมือของชายคนนี้หรือไม่
ด้าน น.ส.อวิภาวดี ศรีจันทึก อายุ 21 ปี พนักงานส่งของ กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00-04.00 น. ขณะมาส่งของกับแฟน ได้กลิ่นเหม็นไหม้จึงลงมาดู ก่อนที่แฟนจะเห็นไฟไหม้จากในร้านดังกล่าว เมื่อมองดูโดยรอบก็เห็นข้างร้านมีกระจกแตก และใต้ต้นไม้มีถังน้ำมันติดไฟอยู่จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ เพราะโดยปกติจะมีคนนอนในร้าน
เบื้องต้น ตำรวจได้เก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดภายในที่เกิดเหตุ แต่ยังสรุปสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ ต้องรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุนั้น เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป