เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00 น. นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือ จ๊อบ เดินทางมาถึงที่สำนักงานอัยการ จังหวัดนนทบุรี พร้อมทนายความเป็นคนแรก จากนั้นเวลาไล่เลี่ยกัน นางสาวอิจศิรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก และนายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต เดินทางมาถึงที่สำนักงานอัยการเช่นกัน โดยมีทางนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายของแซน วิศาพัช เดินทางมาด้วย
โดยกระติก ให้สัมภาษณ์ ก่อนเข้าไปภายใน บอกว่าวันนี้เดินทางมาตามนัดของอัยการ หากมีการสั่งฟ้อง ก็เป็นไปตามกระบวนการ และพร้อมจะให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย ยืนยันว่าคดีนี้เป็นคดีประมาท เพราะเหตุการณ์บนเรือมันไม่มีเรื่องฆาตกรรมกดขึ้น ซึ่งส่วนตัวมีความกังวลเรื่องของเวลา หากจะมีการเลื่อนสั่งฟ้อง จะทำให้เสียเวลาออกไปอีก เพราะส่วนตัวอยากให้ทุกอย่างสรุปและจบไปตามกระบวนการ ทั้งนี้ยังยันยืนว่าจะมีการฟ้องกลับกับคนที่มาฟ้องตรงในข้อหาฆาตกรรมแน่นอน และได้เตรียมหลักฐานและร่างคำฟ้องไว้พร้อมหมดแล้ว
หลังจากที่ทั้ง 3 คน เข้าภายในห้องสำนักงาน ต่อมาเวลาประมาณ 09.40 น.โรเบิร์ต เดินออกไปขึ้นรถเป็นคนแรก จากนั้นนายจ๊อบ และทนายความ ก็เดินตามออกมา โดยกองทัพสื่อมวลชน ได้พยายามจิ้มไมค์สัมภาษณ์ แต่จ๊อบไม่ยอมตอบคำถาม ด้านทนายความบอกว่า ทางอัยการเลื่อนสั่งฟ้องออกไปอีกเป็นครั้งที่ 2
ห่างกันประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 09.50 น. นายปอ ตนุภัทร เดินทางมาพร้อมทนายความ มาถึงที่สำนักงานอัยการนนทบุรี โดยหลบกองทัพสื่อมวลชน เข้าประตูด้านหลัง เข้าไปที่ห้องสำนักงานทันที โดยใช้เวลาในเข้าไปเซนต์รับทราบคำสั่งเลื่อนไม่ถึง 5 นาที ก่อนจะเดินออกประตูด้านหลัง ไปขึ้นรถ BMW ป้ายแดง ขับออกจากสำนักงานอัยการทันที โดยไม่ตอบคำถามใด ๆ
ส่วนสาเหตุที่เลื่อนเป็นครั้งที่ 2 เนื่องจาก อธิบดีอัยการภาค 1 สั่งสอบสวนผู้ต้องหาเพิ่มเติม หลังจากที่พนักงานอัยการได้ส่งสำนวนให้อธิบดีภาคตรวจสอบ และพนักงานสอบสวน สภ.นนทบุรี เพิ่งจะนำส่งผลการสอบสวนที่ สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี เมื่อช่วงเช้า ที่ผ่านมา ทำให้เวลากระชั้นชิด หลังจากนี้พนกงานอัยการ จะมีการตรวจสอบ และนำสั่งให้อธิบดีภาค 1 คาดว่าจะนำส่งได้ภายในวันนี้ เพิ่มพิจารณาตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด และมีการนัดฟัง คำสั่งฟ้องอีกครั้ง ในวันที่ 7 ก.ค. เวลา 09.00 น
สำหรับกระแสข่าว ที่ออกมาว่า จะมีการถอนฟ้อง ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ทางอัยการอธิบายว่า ตามหลักกฎหมาย คดีอาญาแผ่นดิน มีฐานความผิดเกี่ยวกับชีวิตของประชาชน กรณีนี้ไม่ตัดสิทธิ์พนักงานอัยการที่จะฟ้อง ส่วนศาลจะตัดสินอย่างไร ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล