ที่เกิดเหตุเป็นปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนเพชรเกษมขาขึ้นกรุงเทพฯ ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก เด็กปั๊มแจ้งว่า คนร้ายบุกเดียวหวังจี้ชิงทรัพย์ แต่มีคนเข้ามาช่วยทันก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟสีม่วง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาวนเวียนภายในปั๊มเพื่อดูลาดเลา ก่อนเข้ามาทำทีจะเติมน้ำมัน แต่ลงจากรถแล้วเดินตรงมาหา น.ส.สุภาสิณี (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี พนักงานปั๊มน้ำมัน พร้อมกับชักอาวุธปืนขึ้นมาเพื่อหวังจี้ชิงทรัพย์ ขณะเดียวกัน นายชโยทิต อายุ 28 ปี แฟนหนุ่มของ น.ส.สุภาสิณี นอนหลับรอรับแฟนสาวอยู่ที่รถกระบะซึ่งจอดอยู่ใกล้ ๆ ได้วิ่งเข้ามาช่วยแล้วคว้าแพ็กน้ำดื่มทุ่มใส่คนร้าย ทำให้คนร้ายตกใจรีบบิดจักรยานยนต์หลบหนีย้อนศรไปทาง อ.บางสะพาน อย่างรวดเร็วโดยไม่ได้ทรัพย์สินแต่อย่างใด
ต่อมาเจ้าหน้าที่รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบรถจักรยานยนต์เสียหลักลงร่องกลางถนนบริเวณถนนเพชรเกษม หลัก กม.365+400 ใกล้กับจุดกลับรถหนองหญ้าปล้อง พื้นที่ ม.1 ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน ห่างจากปั๊มน้ำมันดังกล่าวประมาณ 4 กิโลเมตร จึงเดินทางไปตรวจสอบพบนายสมเกียรติ เกาะแก้ว อายุ 46 ปี ชาวบ้าน ม.10 ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุนอนร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อค้นตัวอาวุธปืนบีบีกันเหน็บอยู่ที่เอว จึงยึดไว้ตรวจสอบ ก่อนประสานโรงพยาบาลทับสะแกเพื่อรักษาตัว และถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลบางสะพาน
ด้านนายชโยทิต พลเมืองดี เปิดเผยว่า ขณะนอนอยู่ในรถกระบะ ได้ยินเสียงท่อรถจักรยานยนต์จึงตื่นขึ้นมา ก่อนจะเห็นผู้ก่อเหตุวิ่งเข้าไปหาแฟนสาว จึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยและตะโกนบอกให้หยุด เมื่อคนร้ายได้ยินจึงวิ่งกลับมาที่รถ จังหวะนั้นตัดสินใจคว้าเอาแพ็กน้ำทุ่มใส่คนร้าย ก่อนที่อีกฝ่ายจะขี่รถหลบหนีไป
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.สุทิน ทัตรัตน์ สว.สส. สภ.บางสะพาน ได้ประสานกับ สภ.ทับสะแก และ สภ.ธงชัย เพื่อเดินทางมาร่วมตรวจสอบผู้ก่อเหตุ และเข้าตรวจสอบที่บ้านพัก พบเสื้อผ้าและอุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ เขตเทศบาลกำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน เมื่อกลางดึกคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเชิญตัวภรรยานายสมเกียรติ มาให้ปากคำที่ สภ.บางสะพาน ก่อนการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
