7HDร้อนออนไลน์

ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ปลอมเป็นชาวบ้าน ใช้รถส่วนตัวสะกดรอยนักเรียนนักเลงหลังเลิกเรียน สังเกตโค้ดลับเข้าจับกุม 14 เยาวชน ยึดมีด ปืนปากกา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคลิปวิดีโอจากพลเมืองดีและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปราม สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ที่ปลอมตัวเป็นประชาชน แล้วใช้รถยนต์ส่วนตัว ไม่ได้ใช้รถหลวง ขับรถถ่ายภาพพร้อมสังเกตพฤติกรรมของกลุ่มนักเรียนช่างวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ในช่วงเย็นวันที่ 22 มิ.ย. 65 บริเวณถนนเรียบคลองส่งน้ำ ต.ท่าไข่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา โดยในภาพพบเด็กนักเรียนช่างกลุ่มนี้ขี่รถจักรยานยนต์ไปตามท้องถนน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถ และสวมใส่หมวกกันน็อกแบบเต็มใบ เมื่อเจอนักเรียนช่างต่างสถาบันก็จะชักอาวุธมีดออกมา หรือชูนิ้วสัญลักษณ์เพื่อท้าทายวัยรุ่นต่างสถาบันที่ขี่รถผ่าน

กระทั่งเย็นวันที่ 23 มิ.ย. 65 ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พ.ต.ท.เตชทัต เนตรุวงศ์ รอง.ผกก.ป.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปราม สภ.เมืองฉะเชิงเทรา กระจายกำลังตามจุดต่างๆ รอบเมืองแปดริ้ว หลังทำการสืบสวนและติดตามกลุ่มวัยรุ่นนักเรียนช่าง ที่มีพฤติกรรมจะก่อเหตุทะเลาะวิวาทหลังเลิกเรียน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนจะสามารถควบคุมตัวเยาวชนชาย-หญิง อายุ 15-17 ปี จำนวน 14 คน พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์จำนวน 7 คัน อาวุธมีดจำนวน 4 เล่ม อาวุธปืนปากกาไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก และน้ำกระท่อมต้ม 1 ขวด รวมทั้งโทรศัพท์มือถือจำนวน 14 เครื่อง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวเยาวชนทั้งหมด พร้อมเชิญตัวผู้ปกครองมายัง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา นอกจากนี้จากการสอบสวนพบว่า มีเยาวชนชาย 1 คน อายุ 17 ปี มีประวัติครอบครองวัตถุระเบิด ต้องคดีความค้างเก่าอยู่ที่ สน.ร่มเกล้า กรุงเทพมหานคร

พ.ต.ท.เตชทัต เปิดเผยว่า เป็นมาตรการป้องกันเหตุเชิงรุก ซึ่งพฤติกรรมของกลุ่มเยาวชนดังกล่าวจะพกพาอาวุธประจำกายมายังโรงเรียน โดยที่ผ่านมาเมื่อเยาวชนเหล่านี้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามหลบเลี่ยงหรือขี่รถหนี ทำให้ตำรวจต้องวางแผน แต่งกายนอกเครื่องแบบและปลอมตัว ใช้รถยนต์ส่วนตัวขับตะเวนสังเกตพฤติกรรมกลุ่มนักเรียนช่างช่วงหลังเลิกเรียน จนแน่ชัดถึงพฤติกรรมของนักเรียนช่างกลุ่มนี้ จึงกระจายกำลังเข้าตรวจค้นตามสถานที่สาธารณะ ปั๊มน้ำมัน สถานีขนส่ง ก่อนจะพบอาวุธมีดและปืนปากกา น้ำกระท่อมต้ม จึงได้ควบคุมตัวเยาวชนทั้งหมดมายัง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมเชิญผู้ปกครองของเยาวชนเหล่านี้มาร่วมรับฟัง ทำความเข้าใจในสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นของเยาวชนกลุ่มนี้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดทำประวัติบันทึกข้อมูลเยาวชนทั้ง 14 คน และจะดำเนินการตามกฎหมาย สำหรับเยาวชนที่ครอบครองทั้งอาวุธมีดและอาวุธปืน และประสานสถานศึกษาให้ช่วยเพิ่มมาตรการในการควบคุมดูแลกลุ่มเยาวชนกลุ่มนี้ไม่ให้ออกมาก่อเหตุ สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นต่อไป