นายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ พาข้าราชการบำนาญเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน และขอให้ตั้งคณะทำงานดำเนินคดี เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จากกรณีที่ถูกอดีตเพื่อนร่วมงานในหน่วยงานเดียวกันหลอกยืมเงิน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,669,000 บาท เหตุการณ์เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน ปี 2564
ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า มีเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่เคยทำงานด้วยกันมานานกว่า 30 ปี มาขอความช่วยเหลือ อ้างว่าลูกของเพื่อนสนิทมีคดีมรดกต้องใช้เงินวิ่งเต้นสู้คดี เมื่อคดีสิ้นสุดจะได้รับเงินมรดกกว่า 20 ล้านบาท จากนั้นจะคืนเงินให้พร้อมกับค่าตอบแทน ด้วยความไว้ใจเพื่อนที่เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคนมีฐานะดีไม่น่าหลอกลวง จึงเริ่มโอนเงินไปให้กับคน ๆ หนึ่ง ที่อ้างว่าเป็นลูกของเพื่อนสนิท โดยไม่ได้ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร กระทั่งหลัง ๆ ที่เริ่มติดตามทวงเงินคืน อีกฝ่ายมีการบ่ายเบี่ยง จึงเอะใจนำข้อมูลที่อ้างไปตรวจสอบกับศาล แล้วไม่พบว่ามีคดีฟ้องร้องกันจริง ประกอบกับตรวจสอบชื่อของเจ้าของบัญชีที่โอนเงินไป พบว่าถูกดำเนินคดีฉ้อโกงอยู่เกือบ 10 คดี ทำให้เชื่อว่าถูกหลอก จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจที่ สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 แต่จนถึงขณะนี้คดีไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ไม่มีแม่แต่จะเรียกคู่กรณีไปสอบสวนปากคำ จึงนำหลักฐานต่าง ๆ มาร้องขอความเป็นธรรม
ขณะที่ พันตำรวจเอก ประเวศ ศรีนาค ผู้กำกับการ สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า หลังจากทราบเรื่องก็ได้มีการนัดหมายผู้เสียหายเข้าไปพบตนเองในวันจันทร์ที่ 27 มิถุนายนนี้ เวลา 09.00 น. เพื่อสอบถามรายละเอียดรวมถึงเรียกพนักงานสอบสวนเจ้สของคดีมาให้ข้อมูล โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย