โดยพบว่าเป็นกระทิงเพศผู้ อายุประมาณ 13 ปี ตายมาแล้วประมาณ 3 วัน แต่เนื่องจากตายอยู่ในร่องห้วยมีอากาศเย็น และบริเวณดังกล่าวมีฝนตกลงมาอยู่บ่อยครั้ง ทำให้สภาพของกระทิงยังดูสมบูรณ์ไม่เน่าเปื่อย แต่เริ่มมีกลิ่นโชยมาเป็นระยะ
ทางทีมสัตวแพทย์ได้ใช้เครื่องตรวจโลหะทำการสแกนตรวจ ทั่วลำตัวจากนั้นจึงผ่าเพื่อตรวจสอบภายใน พบว่าอวัยวะภายในเน่าเกือบทั้งหมด ชิ้นเนื้อบริเวณลำคอมีลักษณะอักเสบเน่า แต่ตรวจไม่พบหัวกระสุนหรือโลหะชนิดอื่นแต่อย่างใด
ทางด้านนายสัตวแพทย์หญิงภาวิณี ได้ทำการตัดชิ้นเนื้อ อวัยวะภายในบางส่วนและอุจจาระไปตรวจหาสารพิษ เพื่อส่งนำตรวจที่ห้องวิจัยเพื่อหาสาเหตุของการตายของกระทิงต่อไป
ด้าน น.ส.สุพร พลพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี กล่าว่า สภาพอวัยวะภายในคล้ายกับติดเชื้อจนเน่า ซึ่งต้องเป็นหน้าที่ของทางสัตวแพทย์ที่จะทำการตรวจต่อไป จากนั้นจึงได้ใช้รถแบ็กโฮขุดหลุมฝังและโรยด้วยปูนขาว