รวมถึงมีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการกำหนดกลไกแผนงานเชิงยุทธศาสตร์ตามห่วงระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - กันยายน 2565 และในช่วง 6 เดือนถึงเดือนธันวาคม
โดยให้เตรียมพร้อมรับมือผลกระทบวิกฤตด้านเศรษฐกิจและด้านอื่น ๆ ทั้งวิกฤตเรื่องอาหารและวิกฤตด้านพลังงาน รวมทั้งส่งเสริมแนวทางใหม่ ๆ ในการสนับสนุนและส่งเสริมการส่งออกและการบริโภคภายในประเทศ
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีกำชับให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูแล ห่วงโซ่การส่งออกของภาคเกษตร โดยเน้นย้ำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์จากราคาสินค้าส่งออกที่มีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในหมวดของสินค้าอุตสาหกรรที่เพิ่มขึ้น 15 เดือนต่อเนื่อง โดยใน 5 เดือนแรกเพิ่มขึ้นถึง 11.3% ซึ่งทำเงินเข้าประเทศ 3.16 ล้านล้านบาท