สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายถูกคนร้ายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ โทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่าผู้เสียหายมีใบสั่งค้างชำระค่าปรับจราจร แจ้งว่าส่งพัสดุที่ผิดกฎหมาย ต้องทำการโอนเงินไปชำระ หรือต้องโอนเงินไปตรวจสอบแล้วแต่กรณี ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนไปให้มิจฉาชีพ ต่อมาทราบว่าถูกหลอกลวงจึงดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com และได้ทำการร้องเรียนผ่านศูนย์รับเรื่องร้องเรียนสายด่วน 1185 AIS Spam Report Center อีกส่วนหนึ่งด้วย
จากการตรวจสอบ และวิเคราะห์ข้อมูลในระบบรับแจ้งความออนไลน์ พบว่า กรณีดังกล่าวมีความเชื่อมโยงเชื่อมกันกับผู้เสียหายอีกหลายคน เชื่อว่าเป็นกลุ่มคนร้ายกลุ่มเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนสอบสวน รวมถึงประสานงานกับฝ่ายเทคนิคผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่คนร้ายใช้หาเบาะแสเพิ่มเติม กระทั่งทราบตัวผู้กระทำความผิด และสถานที่ที่ใช้ในการกระทำความผิด
ต่อมาวันนี้ เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันเข้าตรวจค้นสถานที่ต่างๆ ตามหมายค้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 8 จุด ในพื้นที่เขตบางนา ห้วยขวาง และลาดพร้าว ผลการปฏิบัติสามารถจับกุม นายสุรชาติ แซ่โจ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหา “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343, 83 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหา “นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14(1) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และพบผู้ต้องสงสัยอีก 3 คน
การปฏิบัติการครั้งนี้ สามารถตรวจยึดของกลางเครื่องสัญญาณ IP PBX จำนวน 43 เครื่อง เครื่องส่งญาณไร้สาย wireless router จำนวน 30 เครื่อง และของกลางอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกหลายรายการ เช่น สมุดบัญชีธนาคาร โทรศัพท์มือถือ จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.สอท.ดำเนินคดีตามกฎหมาย และสอบสวนขยายผลไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป โดย 1 ซิม โทรได้วันละ 500 สาย ใช้โทรหาเหยื่อตกวันละ 688,000 หมายเลข หรือ เดือนละ 20 ล้านหมายเลข