การจับกุมเครือข่ายของผู้ต้องหารายนี้ ตำรวจได้ติดตามมาตั้งแต่ปี 2563 โดยพบพฤติกรรมการลักลอบขนยาเสพติดล็อตใหญ่มานาน มีการเชื่อมโยงกับเครือข่ายที่ถูกจับกุมในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรีและพระนครศรีอยุธยา ก่อนหน้านี้ พร้อมของกลางยาบ้ารวม 2 ล้านเม็ด และเป็นเครือข่ายของเลาปา หรือ โด้ ที่มีการเคลื่อนไหวในพื้นที่จังหวัดลำปาง
ต่อมาจากการติดตามพบว่ามีการลักลอบขนตามลำน้ำโขง พื้นที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย แล้วมีการลักลอบไปตามลำน้ำ กระทั่งนำยาเสพติดดังกล่าวเข้ามาพื้นที่ตอนในของประเทศ ล่าสุดพบว่ายาเสพติดล็อตนี้ได้มีการลักลอบขนโดยใช้รถยนต์ 2 คัน และจะผ่านมาตามถนนสายแม่พริก-เถิน(สายเก่า) ต.แม่พริก อ.แม่พริก จ.ลำปาง ต่อเนื่อง ถนนพหลโยธิน หมู่ 6 ต.สบปราบ อ.สบปราบ จ.ลำปาง ด้วยการสังเกตของทางเจ้าหน้าที่ และการติดตามอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ขับผ่านมาตามเส้นทางดังกล่าว จึงได้เข้าสกัดและทำการตรวจสอบ ซึ่งผู้ต้องหาพยายมขับรถหลบหนี
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมรถยนต์ที่หลบหนีได้ และจับผู้ต้องหาได้ 2 คน ตรวจสอบในรถพบยาบ้า จำนวน 20 กระสอบ ประมาณ 4,700,000 เม็ด ส่วนรถกระบะหลบหนีไปทางถนนพหลโยธินขาขึ้น จึงประสานด่านตรวจ สภ.สบปราบ สกัดไว้ได้ พร้อมควบคุมผู้ต้องหาอีก 2 คน
ตำรวจชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.แม่พริก จังหวัดลำปาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา “ ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อการค้า โดยผิดกฎหมาย อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ” ต่อไป
ด้านผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการหลังจากนี้จะได้มีการขยายผลไปถึงการตรวจสอบทรัพย์สินและยึดทรัพย์ตามกระบวนการทางกฎหมาย และกวาดล้างเครือข่ายรายนี้ เนื่องจากทราบว่า มีการเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.แจ้ห่ม อ.แจ้ซ้อน และ อ.เมืองปาน จ.ลำปาง ซึ่งจะเป็นขั้นตอนในการดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ในห้วงที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 - 10 กรกฎาคม 2565 ตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดไปแล้ว จำนวน 26,361 คดี แยกเป็นคดีรายสำคัญ จำนวน 129 คดี ผู้ต้องหารวม 21,914 ราย ตรวจยึดของกลางยาเสพติดยาบ้า 143,971,931 เม็ด ไอซ์ 712 กิโลกรัม เฮโรอีน 48 กิโลกรัม ฝิ่น 194 กิโลกรัม และเคตามีน 151 กิโลกรัม ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติดมูลค่าทรัพย์สินรวมประมาณ 570 ล้านบาท