น.ส.ธณิกานต์ กล่าวว่า วันนั้นระบบเครื่องลงมติใช้งานจริงวันแรก มีปัญหาเครื่องขัดข้อง ด้วยความเป็น สส.ใหม่ ไม่กล้าดึงบัตรออก เพราะยังถกเถียงเรื่องระบบมีปัญหา และตนรีบไปภารกิจงานเสวนาเทิดพระเกียรติวันแม่แห่งชาติ ยืนยันไม่มีเจตนา ไม่เคยใช้ให้ใครกดบัตรแทน ก็ต้องเคารพการตัดสินของศาล เคสมาเกิดขึ้นที่เรา คำตัดสินอาจจะเป็นบรรทัดฐานให้เคสของพรรคอื่นที่กำลังตามมา แม้รายละเอียดจะต่างกรรมต่างวาระกันอย่างสิ้นเชิง ก็ถือว่าเป็นคราวเคราะห์ ที่ประมาทเลินเล่อ ขั้นต่อไปก็ต้องต่อสู้ตามสิทธิและขอความเมตตาในชั้นอุทธรณ์
น.ส.ธณิกานต์ กล่าวว่า ตนเองในฐานะจำเลยที่ถูกกล่าวหาในคดีอาญา ยังต้องได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายที่โจทก์มีหน้าที่ต้องพิสูจน์ ว่าจำเลยมีการกระทำและเจตนากระทำความผิด จนปราศจากความสงสัย เรื่องนี้ การที่ศาลพิพากษาจำคุก 1 ปี แม้ดูไม่ร้ายแรง แต่จะมีผลทำให้ตนถูกตัดสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิตเพราะขาดคุณสมบัติ ซึ่งตนมีข้อมูลพร้อมพิสูจน์ตัวเอง และใช้สิทธิตามกระบวนการในชั้นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ขอให้ศาลเมตตาให้ความเป็นธรรม โดยดูที่เจตนาและพิจารณาครบทุกองค์ประกอบรอบด้าน
“ทุกอย่างเกิดขึ้นย่อมมีเหตุปัจจัย มีหลายเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุมและยากจะเข้าใจ บททดสอบสำหรับ สส.สมัยแรกไม่ง่ายเลย ขอบคุณทุกๆ กำลังใจและทุกๆ คำแนะนำจากพี่ๆเพื่อนๆ ทุกคนที่ส่งเข้ามา พี่ๆ นักกฎหมายหลายคนที่ได้ดูเคสให้ก็ตกใจ เพราะไม่ปรากฏหลักฐานใดว่ามีการกระทำเช่นนั้น ก็ให้เคารพคำพิพากษาศาล จะนำมาปรับปรุงและวางแนวทางการทำงานให้ละเอียดรอบคอบขึ้น เชื่อว่าอุปสรรคคดีทางการเมืองที่เจอจะทำให้ตนแข็งแกร่ง อดทน และเปิดมุมมองกว้างขึ้น” น.ส.ธณิกานต์ กล่าวทิ้งท้าย
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีนี้ยังไม่ถือว่า น.ส.ธนิกานต์ พ้นจากการเป็น สส. เพราะอยู่ระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่ และเวลานี้สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีได้ ซึ่งทุกอย่างต้องว่าไปตามกฎหมาย