(25 ส.ค.65) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในร้านขายของชำภายในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา พบว่าร้านค้าส่วนใหญ่ยังไม่มีการปรับราคาของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพราะว่ายังมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปภายในสต๊อกเหลืออยู่เลยยังไม่ปรับราคาขึ้น แต่ก็พบว่ายังคงมีร้านค้าบางส่วนมีการปรับราคาขึ้นแล้วหลังจากที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ได้พิจารณาปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้ง 3 ยี่ห้อ ได้แก่ มาม่า ยำยำ ไวไว ปรับขึ้นราคาไม่เกิน 1 บาทต่อซอง จาก 6 บาทต่อซอง เป็น 7 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไปจนกว่าวัตถุดิบหลักในการผลิตจะมีราคาลดลง
โดยที่ น.ส.สุปราณี นะสันเทียะ อายุ 38 ปี ผู้จัดการร้าน หจก.มิลค์กะมอส กิ๊บช็อป สาขาถนนเดชอุดม เปิดเผยว่า ตอนนี้ที่ร้านของตนยังไม่มีการปรับราคาของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในส่วนของการขายเป็นซองโดยที่ยังขายซองละ 6 บาทอยู่ แต่จะมีการปรับราคาขึ้นในส่วนของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ขายเป็นแพ็คๆละ 10 ซอง โดยปรับขึ้นแพ็คละ 1-2 บาท ซึ่งทางร้านยังคงจะขายในราคานี้ไปก่อนเพราะยังไม่อยากขึ้นราคากลัวลูกค้าได้รับผลกระทบ แต่ถ้าหากสถานการณ์ยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปอาจจะมีการปรับราคาของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ขณะเดียวกัน นายกิติพงษ์ ดวงมุกพะเนาว์ อายุ 40 ปี ชาวบ้าน เปิดเผยว่า ตนมาซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่เป็นประจำเพราะว่าเป็นอาหารที่สะดวกและทำได้ง่ายอีกทั้งยังราคาถูก แต่หลังจากที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีการขึ้นราคาทำให้ตนคิดว่าคนที่มีรายได้น้อยน่าจะได้รับผลกระทบ เพราะนอกจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซึ่งถือว่าเป็นอาหารหลักของคนที่มีรายได้น้อยอีกทั้งนักเรียนนักศึกษาที่อาศัยอยู่หอพักนิยมกินกันเพราะราคาถูกและหาซื้อง่าย แต่ส่วนหนึ่งก็เข้าใจถึงการปรับราคาในครั้งนี้เพราะวัตถุดิบหลายอย่างมีการปรับขึ้นราคา จึงอยากฝากไปยังรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยากให้ช่วยตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคโดยเฉพาะสินค้าที่กินเป็นประจำทั้งไข่ไก่ น้ำมันพืช และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพราะว่าตอนนี้ประชาชนได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจก็เพียงพออยู่แล้ว.
