ทางนายโต หนึ่งในบิดาของนักเรียนหญิง ป.6 ของโรงเรียนดังกล่าว เผยว่า เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา หลังจากที่มีครูประจำชั้นของลูกสาวโทรมาแจ้งเรื่องดังกล่าวให้ฟัง ตนเองจึงไปพูดคุยกับลูกสาว จนยอมรับว่าถูกทางด้าน นายมณเทียน กระทำอนาจารจริง โดยวันเกิดเหตุเป็นวันที่ทางโรงเรียนหยุดเรียนครึ่งวัน บุตรสาวซึ่งต้องนั่งรถรับส่งของทางภารโรงคนดังกล่าวกลับบ้านทุกวัน เนื่องจากเป็นรถรับ-ส่งนักเรียนที่ทางภารโรงรับจ้างรับส่งนักเรียน
โดยวันเกิดเหตุหลังจากเลิกเรียน ภารโรงปกติจะต้องพาเด็กๆ ไปส่งบ้าน ส่วนบุตรสาวของตนจะเป็นคนลงคนสุดท้ายของรถ วันเกิดเหตุมีการแวะซื้อเบียร์ดื่มในระหว่างขับรถ จากนั้นส่งเด็กคนอื่นจนเหลือเพียงบุตรสาวของตน จึงขับรถพาเข้าซอยเปลี่ยว แล้วจึงก่อเหตุกระทำอนาจารลูกสาวทั้งกอด หอมแก้ม จนบุตรสาวขัดขืนและโวยวายทำให้ต้องพากลับมาส่งที่บ้าน ซึ่งตอนแรกบุตรสาวไม่กล้าเล่าเรื่องราวดังกล่าวให้ฟัง
จนกระทั่งมีการไปพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนในรถที่ไปด้วยกัน ซึ่งจะมีทางด้านนักเรียนตัวแทนสภานักเรียนรวมอยู่ด้วย และทราบว่าเด็กนักเรียนหญิงอีกคนที่ขึ้นรถสายเดียวกันก็ถูกกระทำอนาจารเช่นกัน ทำให้ตัวแทนสภาพนักเรียนนำเรื่องดังกล่าวมาปรึกษากับครูประจำชั้น หลังจากนั้นผู้บริหารได้มีการเรียกคุยและพยามเจรจาเรื่องราวทั้งหมดให้จบลงภายในโรงเรียนโดยอ้างว่ากลัวจะเสียชื่อเสียงของทางโรงเรียน ที่ผ่านมาเคยเข้าไปพูดคุยในโรงเรียนแล้วถึง 2 ครั้ง จนกระทั่งครั้งล่าสุดมีทั้งตัวแทนท้องถิ่น เทศบาล กำนัน คณะกรรมการศึกษา ผู้ปกครอง เข้าร่วมพูดคุย โดยมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกับทางภารโรงคนนี้ ซิ่งเจ้าตัวก็ออกมายอมรับว่าก่อเหตุจริง ทางโรงเรียนจึงให้ออกจากราชการทันที แต่กลับพบว่ายังไม่มีการดำเนินการทางกฎหมายกับภารโรงคนดังกล่าว
หลังจากเกิดเรื่องภารโรงคนนี้ย้อนกลับมาที่โรงเรียนด้วยท่าทีที่เมาสุรา และโวยวายข่มขู่ในโรงเรียน จนสร้างความหวาดกลัวให้กับครูในโรงเรียนรวมถึงความปลอดภัยของเด็กและผู้ปกครองจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเอาผิดในครั้งนี้
ด้านแม่ของเด็กหญิงผู้เสียหายอีกคน เผยว่า บุตรสาวของตนเองถูกภารโรงคนเดียวกันจับมือลูบหน้าผาก แล้วเอ่ยปากถามว่า “เป็นรอบเดือนแล้วหรือยัง” และยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ขณะนี้ยังหวาดกลัวเรื่องความปลอดภัยของครอบครัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากภารโรงคนนี้มักชอบดื่มสุราและยังเคยออกมาโวยวายข่มขู่ อีกทั้งยังรู้บ้านพักของนักเรียนอีกด้วย
ขณะที่ผู้ปกครองอีกรายที่ออกมาปกป้องเด็กนักเรียนรายนี้ เปิดเผยว่า ตนเองมีบุตรสาวที่เรียนโรงเรียนแห่งนี้เหมือนกัน หลังจากเกิดเรื่องก็ทราบว่าทางโรงเรียนยังนิ่งเฉย ทำให้ตนเองต้องออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเด็กและเป็นตัวแทนในที่ประชุมของโรงเรียนเพื่อทวงหาความยุติธรรม โดยในที่ประชุมมีการไกล่เกลี่ยตกลงให้มาร่วมกันทำบันทึกข้อตกลงและลงประจำวันที่สถานีตำรวจ
ขณะเดียวกัน ทางด้านผู้อำนวยการโรงเรียน ได้เดินทางมายังสภ.บางเสาธง พร้อมกับกำนันตำบลบางเสาธง เพื่อจะร่วมพูดคุยหาทางออกและลงบันทึกประจำวันในเรื่องนี้ โดยทางด้านผอ. ได้โชว์หลักฐานเอกสารที่ระบุเป็นสำนวน สอบสวนทางวินัยของคณะกรรม ซึ่งมีใจความสอบสวนข้อเท็จจริงกับนักการภารโรงคนนี้ ซึ่งในสำนวนการสอบสวนระบุการให้ถ้อยคำของนักการภารโรงรายนี้ ยอมรับว่าดื่มสุราจริง ยอมรับว่ามีการถูกเนื้อต้องตัวกับนักเรียนจริงและยังยอมรับอีกว่ามีการพูดคุยต่อหน้านักเรียนในเชิงชู้สาวจริง โดยข้อมูลยังไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ และจะเตรียมแถลงข่าวที่โรงเรียนในวันจันทร์นี้
ทั้งนี้ ดร.ทนาย เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ระบุว่าหลังจากนี้จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานจากผู้เสียหาย ซึ่งทราบว่ามีทั้งข้อความเชิงชู้สาวที่ภารโรงส่งหาเด็ก รวมถึงหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง มั่นใจจะสามารถเอาผิดผู้ต้องหาคนนี้ได้อย่างแน่นอน เพราะถือว่าเป็นภัยต่อสังคม อีกทั้งเกิดขึ้นในรถรับส่งนักเรียนที่ทางผู้ปกครองไว้ใจมากที่สุด เบื้องต้นทางด้านพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเรียกสอบปากคำและเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำอย่างละเอียด ส่วนนักการภารโรงคนนี้จะได้เชิญตัวมาสอบปากคำหากไม่มาพบพนักงานสอบสวนก็จะออกหมายจับต่อไป
