โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า 1. ค้ามนุษย์ ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยกระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปี 2.เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลอายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม 3.เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิงอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม 4. บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำความผิด และ 5.รับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่น หรือจากผู้ค้าประเวณี และจัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ใช้บริการ
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. ได้สืบทราบว่า ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ใน ต.เขาพระ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี มีการลักลอบค้าประเวณี ซึ่งมีผู้เสียหายเป็นเด็กหญิงอายุเพียง 14 ปี ถูกหลอกลวงให้มาขายบริการทางเพศอยู่ภายในรีสอร์ตดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนทราบว่ามี บุคคลชื่อ “ถุงแป้ง หรือเค” ทำหน้าที่เป็นแม่เล้าอยู่ภายในรีสอร์ตดังกล่าว โดยจะเปิดห้องภายในรีสอร์ตพักอาศัยอยู่กับเด็กหญิง เมื่อมีลูกค้าติดต่อมาใช้บริการ ก็จะพาตัวไปส่งให้กับลูกค้า และรับเงินค่าซื้อบริการ เป็นเงินจำนวน 1,500 บาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางแผนเข้าทำการช่วยเหลือผู้เสียหาย โดยให้สายลับติดต่อขอซื้อบริการเด็กหญิงจากผู้ต้องหา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพบผู้ต้องหาเดินออกมาจากห้องหมายเลข 7 ออกมารอสายลับ เมื่อสายลับมาถึงได้จ่ายเงินให้กับผู้ต้องหา จำนวน 1,500 บาท ผู้ต้องหาจึงบอกกับสายลับว่า มีเด็กหญิงอายุ 14 ปี รออยู่ภายในห้องหมายเลข 7 เมื่อสายลับเข้าไปภายในห้อง พบเด็กหญิง อายุ 14 ปี จริง จึงได้ส่งสัญญานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา
นอกจากนี้ยังพบหลักฐานเป็นเงินที่ใช้ในการล่อซื้อบริการและโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการติดต่อกับสายลับที่กระเป๋าถือของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยหน่วยงานโอเปอร์เรชัน อันเดอร์กราวด์ เรลโรด (O.U.R.) จึงเข้าทำการช่วยเหลือเด็กหญิงผู้เสียหายจาการค้ามนุษย์ ส่วนผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปคม. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าได้รู้จักผู้เสียหายที่ได้หนีออกจากบ้านมา จึงได้ชักชวนผู้เสียหายมาขายบริการ โดยจะหักเงินจากค่าบริการเป็นค่านายหน้า 700 บาท และแบ่งให้ผู้เสียหาย 800 บาท ซึ่งทำลักษณะดังกล่าวมาเป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี และจะมีลูกค้ามาซื้อบริการวันละประมาณ 10 คน