ปฏิบัติการลาดตระเวนชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ตามมาตรการ IUU Fishing ป้องกันการทำประมงผิดกฎหมาย ของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. ภาค 2 กับหน่วยงานต่าง ๆ และกลุ่มประมงอาสา ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง
โดยเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่กลุ่มทำประมงพื้นบ้านผิดกฎหมาย ใช้ไซหนอน หรือลอบพับได้ หรือ "ไอ้โง่" เคยขับเรือชนเรือเจ้าหน้าที่ จึงปรับแผนป้องปรามและค้นหาลอบพับได้ เพราะถือเป็นเครื่องมือผิดกฎหมาย ทำลายทรัพยากรทางทะเลรุนแรง เนื่องจากดักจับสัตว์น้ำทุกขนาด จนบางชนิดเสี่ยงสูญพันธุ์
กลุ่มประมงอาสา ที่ต้องเผชิญความเสี่ยงปะทะกลุ่มทำผิดกฎหมาย ก็ไม่ย่อท้อ ใช้วิธีวางเครือข่ายชาวประมงอวนกุ้ง อวนปลากระบอก และเบ็ดราว เพื่อหาข่าวฝ่ายตรงข้าม หากพบก็ลุยรื้อทันที และขณะนี้ได้รับความร่วมมือ เพราะทุกคนมีรายได้ดีขึ้น
กลุ่มทำผิดกฎหมาย หนีไม่พ้นผู้มีอิทธิพล นักการเมืองท้องถิ่นหนุนหลัง กลุ่มแพปลาชื่อเจ้าของอักษรย่อ เจ๊ ด.เด็ก และกลุ่มวัยรุ่นติดยาเสพติด ทั้งหมดอยู่ในอำเภอปากพนัง และเมืองนครศรีธรรมราช
และเมื่อลอบพับได้ ที่มีมูลค่าลูกละ 700-800 บาท ถูกยึด ก็สั่งผลิตใหม่ แล้วนำมาวางอีกครั้ง บางครั้งก็มีการใช้เรือเร็วขับข่มขู่เจ้าหน้าที่ ส่วนข้าราชการบางคน ก็เพิกเฉย
แม้ลาดตระเวนถี่ขึ้น กลุ่มนี้ก็ยังแอบวางลอบได้แทบทุกวัน ซึ่งการแก้ไขปัญหาระยะยาว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจต้องไปตั้งฐานกลางอ่าว เพื่อให้กลุ่มทำผิดกฎหมายเกรงกลัว
รองผู้อำนวยการ ศรชล. ภาค 2 เผยที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ให้ความรู้ และขอความร่วมมือชาวประมงพื้นบ้านแล้ว แต่ยังมีบางกลุ่มฝ่าฝืน เพราะหวังเพียงรายได้จากการจับสัตว์ได้มากขึ้น โดยไม่คำนึงผลกระทบระยะยาว เจ้าหน้าที่จึงปรับแผน จนยึดได้มากขึ้น บางครั้งได้เกือบพันลูก
หลังปราบปรามอย่างหนัก ขณะนี้ชาวประมงที่ใช้เครื่องมือถูกกฎหมาย ลืมตาอ้าปากได้ จับสัตว์น้ำ ทั้งปลากระบอก กุ้ง ปลาดุกทะเล ได้มากขึ้น บางวันมีรายได้เกือบ 4,000 บาท
สำหรับลอบพับได้ หากผู้ใดครอบครอง ใช้ทำประมงในแหล่งน้ำสาธารณะทั้งในทะเลและน้ำจืด จะมีความผิดตามพระราชกำหนดการประมง ระวางโทษเปรียบเทียบปรับ 10,000-100,000 บาท หรือ 5 เท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่จับได้ ยกเว้นใช้จับสัตว์น้ำในบ่อเพาะเลี้ยง ที่เอกชนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เท่านั้น