รายงานพิเศษ : รวบจอมโจรไอ้โม่งลิง คู่หูตระเวนลักทรัพย์เหนือจรดใต้ จ.ยะลา

สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 9 โชว์ผลงานจับกุมโจรคู่หูอ้วนผอม ประวัติสุดโชกโชนตระเวนลักทรัพย์ ใต้สุดแดนสยาม สู่เหนือสุดแดนสยาม ตั้งแต่ปี 2559 ลงมือแต่ละครั้งมีเอกลักษณ์ประจำตัว คือ สวมหน้ากากไอ้โม่งลิง ปิดบังอำพรางใบหน้า ลงสนามข่าวนี้กับคุณ เตชะวัฒน์ สุขรักษ์

วินาทีที่ พันตำรวจเอก สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ​และ พันตำรวจเอก ศักดา เจริญกุล รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 9 นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน จับกุม นายสมพร อายุ 44 ปี ชาวอำเภอละงู จังหวัดสตูล ได้ในบ้านพัก และค้นพบหลักฐานที่ใช้ก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคกลาง

หลัง นายสมพร เป็นผู้ต้องหาหมายจับศาลแขวงเวียงป่าเป้า ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ และโดยเข้าทางช่องทาง ซึ่งทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า, ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น และร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป

ซึ่ง นายสมพร ไม่ได้ก่อเหตุเพียงคนเดียว แต่มีเพื่อนร่วมแก๊งอีกคน คือ นายวสันต์ อายุ 39 ปี ชาวอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ที่ตำรวจบุกจับถึงห้องนอน

หลังสอบสวน ทั้ง 2 คน จำนนด้วยหลักฐาน รับสารภาพก่อเหตุจริง เพราะต้องการนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว และใช้รักษาโรคประจำตัว พร้อมขอโทษผู้เสียหายทุกราย

ตำรวจควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดก่อเหตุ ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยเฉพาะบ้านหรูในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่ได้ทรัพย์สินกว่า 21 ล้านบาท, ร้านสำเพ็งหาดใหญ่ ที่เคยเป็นข่าวโด่งดังปลายปีที่ผ่านมา ได้ทรัพย์สินไปกว่า 6 ล้านบาท พร้อมอาวุธปืน และที่สำนักงานปั๊มน้ำมันในอำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล

หลักฐานสำคัญหลายรายการที่ยอมจำนน อาทิ หมวกไอ้โม่งลิง 15 ใบ ถุงมือผ้ายาว 7 คู่ รองเท้าหุ้มส้นแบบสตั๊ดดอย สีดำ 6 คู่ ตรงกับรอยเท้าที่พบใกล้จุดเกิดเหตุหลายแห่ง กระเป๋าเป้ 5 ใบ ชะแลงเหล็ก 2 อัน เครื่องเจียรไฟฟ้า 3 ตัว นาฬิกาหรู 8 เรือน มูลค่า 3 ล้านบาท และ น้ำหอม 3 ขวด
 
พฤติการณ์ทั้ง 2 คน ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 9 แกะรอยจากเหตุคนร้ายงัดสำนักงานปั๊มน้ำมัน ที่อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 ได้สุรา 1 ขวด มูลค่า 12,000 บาท และเหรียญกษาปณ์ 2,000 บาท แต่พบว่ากระเป๋าเป้สะพาย เหมือนคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์อีกหลายเหตุ

เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็พบรถต้องสงสัยขับวนรอบที่เกิดเหตุ กระทั่งต้นเดือนสิงหาคม รถคันนี้มุ่งหน้าขึ้นเหนือ แล้วเกิดเหตุคนร้ายเจาะตู้เซฟ สหกรณ์การเกษตรแม่สรวย จังหวัดเชียงราย จากนั้นตระเวนมาก่อเหตุที่โรงงานปุ๋ยแห่งหนึ่ง ในอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี ก็เคยมีบ้านหลังหนึ่ง ถูกลักทรัพย์ลักษณะเดียวกัน ทรัพย์สินสูญหายกว่า 12 ล้านบาท

นอกจากนี้ สืบจากเสื้อผ้าที่คนร้ายสวมใส่วันเกิดเหตุ มักสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ศีรษะสวมไอ้โม่งลิง ปิดบังอำพรางใบหน้า และสะพายกระเป๋าเป้แบบเดียวกัน โดยจะเน้น​สหกรณ์การเกษตร หรือ สำนักงานปั๊มน้ำมัน และร้านค้าขนาดใหญ่ ที่อยู่ใกล้ป่าละเมาะ หรือห่างไกลชุมชน

หลักฐานชัด ๆ เช่น วันที่ 8 สิงหาคม กล้องวงจรปิดในแพปลา อำเภอละงู จังหวัดสตูล คนร้ายสวมไอ้โม่งลิง เดินอยู่นอกสำนักงาน ก่อนเข้าไปรื้อค้นได้เงินสด 100,000 บาท

เข้าลักทรัพย์แต่ละแห่ง ใช้ชะแลงเหล็ก และไขควง งัดเข้าไปภายใน หากพบตู้เซฟก็ผลักให้ล้ม ใช้เครื่องเจียรไฟฟ้าเจาะหลังตู้เซฟ เช่น ที่สหกรณ์การเกษตรทุ่งหว้า จังหวัดสตูล ลงมือก่อเหตุวันที่ 31 มกราคม 2564 ซึ่งกล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้ชัดเจน 

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่สอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตัวเอง เพราะคดีนี้สร้างความเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และแก๊งนี้ตระเวนลักทรัพย์หลายพื้นที่กว่า 25 ครั้ง หลังจากนี้สั่งการให้ทุกพื้นที่ตรวจสอบเหตุลักษณะเดียวกัน เพื่อขยายผลแจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุเพิ่มเติม
 
หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกโจรคู่หูไอ้โม่งลิงเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านถึง 2 ครั้ง นำดอกไม้เข้าขอบคุณตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 9 ที่จับคนร้ายได้ ซึ่งยืนยันว่า พฤติการณ์คนร้ายพุ่งเป้าไปยังตู้เซฟ หวังทรัพย์สินทั้งหมด 

หลังจากนี้​ตำรวจจะเร่งขยายผลหาผู้ร่วมกระทำความผิด รวมทั้งผู้ที่รับซื้อของโจร และเร่งติดตามทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนมาหลายรายการมาคืนผู้เสียหาย