ชาวรัสเซียแห่เดินทางออกนอกประเทศ ทำให้ชายแดนรัสเซีย หนาแน่นขึ้น หลังประชาชนพยายามเดินทางออกนอกประเทศ หวั่นถูกเกณฑ์ทหารไปรบในสงครามรัสเซีย-ยูเครน หลังประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศมีคำสั่งเกณฑ์ทหาร 300,000 นาย เข้าไปเสริมทัพในการสู้รบกับยูเครน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การจราจรบริเวณชายแดนรัสเซียหนาแน่นขึ้น หลังชาวรัสเซียจำนวนมาก พยายามเดินทางออกนอกประเทศ หวั่นถูกเกณฑ์ไปรบในสงครามรัสเซีย-ยูเครน
โดยหลังจาก ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ประกาศมีคำสั่งเกณฑ์ทหาร 300,000 นาย เข้าไปเสริมทัพในการสู้รบกับยูเครน ซึ่งถือเป็นการเกณฑ์ทหารครั้งใหญ่สุด นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน
ทั้งนี้ยืดเยื้อมานานถึง 7 เดือนแล้ว ทำให้พลเมืองชาวรัสเซียบางส่วนที่มีอายุอยู่ในเกณฑ์ พากันรีบเดินทางออกนอกประเทศ ส่งผลให้การจราจรบริเวณชายแดนติดขัดอย่างหนัก ทั้งบริเวณชายแดนติดกับจอร์เจีย, ฟินแลนด์, คาซัคสถาน และมองโกเลีย ขณะที่ ผู้เดินทางบางรายเปิดเผยว่า เขาต้องรอคิวนานกว่า 12 ชั่วโมง กว่าจะเดินทางข้ามแดนไปยังจอร์เจียได้
ขณะเดียวกัน ราคาตั๋วเครื่องบินจากกรุงมอสโก แบบเที่ยวเดียว ไปยังปลายทางในต่างประเทศที่ใกล้ที่สุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นใบละสูงกว่า 5,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 186,000 บาท และตั๋วส่วนใหญ่ที่จะเดินทางในช่วง 2-3 วันนี้ ถูกขายหมดแล้ว
นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ เปิดเผยว่า รัฐบาลฟินแลนด์อาจพิจารณาห้ามชาวรัสเซียส่วนใหญ่เดินทางเข้าประเทศ เพื่อใช้ฟินแลนด์เป็นประตูในการเดินทางจากรัสเซียไปยังประเทศอื่น ๆ ในยุโรป โดยฟินแลนด์ถือเป็นประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป ที่มีพรมแดนติดกับรัสเซียยาวที่สุด
