เป็นคลิปภาพวงจรปิด ขณะที่เกิดเหตุผู้เสียหายซึ่งเป็นเยาวชน อายุ 18 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่น 6 คน สวมหมวกกันน็อคปิดบังใบหน้า ล้อมรอบแล้วใช้มีดรุมฟันไม่ยั้ง โดยมีรุ่นน้องของเยาวชนอายุ 18 ปี พยายามจะเข้าไปช่วย แต่ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุข่มขู่ ไม่ให้เข้ามา จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
หลังเกิดเหตุน้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล มีบาดแผลตามร่างกาย 7 แห่ง นิ้วมือเกือบขาด ก่อนที่เพจสายไหมต้องรอด พา น้องเจล เยาวชนอายุ 18 ปี ที่ถูกรุมฟันและครอบครัวไปแจ้งความกับตำรวจ สน.สายไหม
น้องเจล เปิดเผยว่าเหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2565 ช่วงเย็นตนเองกับรุ่นน้องอีก 2 คน คือ นายปอนด์ และ นายอ้น ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากซอยเพิ่มสิน 20 เพื่อจะกลับบ้านพักย่านนิมิตรใหม่ โดย นายปอนด์ เป็นคนขี่ นายอ้นนั่งกลาง ส่วนตนเองนั่งท้าย ระหว่างที่ขี่รถจักรยานยนต์ได้สวนกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ แต่ก็ไม่ได้มีตะโกนด่า หรือ หาเรื่องใส่กัน จนใกล้ถึงปากซอยเพิ่มสิน 20 กลุ่ม ผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนกลับมา แล้วขี่เบียด บังคับให้รถจักรยานยนต์ของตนให้ต้องชิดกับฟุตบาทจนไปไม่ได้ และถามตนว่าเรียนอยู่ที่ไหน ซึ่งตนไม่ได้ตอบ เพราะตอนนี้พักการเรียนเพื่อออกไปหางานทำ
กลุ่มผู้ก่อเหตุเห็นพวงกุญแจตราสถาบันการศึกษาที่ติดไว้ที่หูเข็มขัด และได้บอกให้ตนเองส่งให้ แต่ตนไม่ยอม กลุ่มผู้ก่อเหตุเลยฟันไปที่นายปอนด์ น้องที่ขี่รถจักรยานยนต์ และตนก็ได้พูดไปว่าอย่าทำน้องผม น้องผมเป็นเด็กเรียน เพื่อนอีกคนก็ยกมือไหว้และบอกว่าอย่าทำ ต่อมากลุ่มผู้ก่อเหตุเห็นว่าตนถือมีดอยู่เพื่อเอามาป้องกันตัว จึงเข้ามารุมทำร้ายตนโดยครั้งแรกฟันเข้าที่คอ ซึ่งก็พยายามหนีและเสียหลักล้ม และไม่คิดสู้ต่อ เพราะหากสู่ต่อจะเจ็บหนักกว่านี้ จากนั้นถูกรุมฟันไม่ยั้งตามร่างกาย อย่างที่ปรากฎในคลิป กระทั่งชาวบ้านแถวนั้นที่เห็นเหตุการณ์ ตะโกนว่าตำรวจมาทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุหลบหนีไป
ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุ ดูจากการแต่งกายแล้วมั่นใจว่าเป็นนักเรียนอาชีวะอย่างแน่นอน แต่จำหน้าไม่ได้ เพราะทั้ง 6 คน ใส่หมวกกันน็อค
ขณะที่พ่อของน้องบอกว่าวินาทีแรกที่เห็นสภาพลูกชายถูกทำร้าย อยากถามว่าทำไมต้องทำรุนแรงถึงขนาดตั้งใจจะเอาชีวิต ยอมรับว่าลูกชายเกเรตามประสาวัยรุ่น แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน อยากขอให้ตำรวจเร่งจับกุมกลุ่มที่ทำร้ายลูกชายและจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
สำหรับการสืบสวนขยายผล พันตำรวจโท สเน่ห์ มณีฉาย รองผู้กำกับการสืบสวน สน.สายไหม เปิดเผยว่าขณะนี้ ชุดสืบสวนได้หาพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และทะเบียนรถจักรยานยนต์จนทราบข้อมูลของกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี เบื้องต้นมีความผิดฐานพกพาอาวุธ, ก่อเหตุรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส, ส่วนข้อหาพยายามฆ่า ยังไม่สามารถยืนยันได้ในขณะนี้
กระทั้งล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คน ได้พาทั้งหมดเข้ามามอบตัวกับตำรวจที่ สน.สายไหม ภายหลังการเข้าพบประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งหมดได้หลบผู้สื่อข่าวเดินออกด้านหลังแล้วเดินทางกลับโดยทันที
จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คน แสดงตัวว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ส่วนสาเหตุเกิดจากการเขม่นกันระหว่างขี่รถสวนกันในซอยเท่านั้น
ทั้งนี้ได้มีการทำประวัติทั้ง 6 คน แต่ไม่ได้ควบคุมตัว เนื่องจากผู้ก่อเหตุทั้งหมดเป็นเยาวชน อายุระหว่าง 16-17 ปี และเป็นการเข้ามาแสดงตัวเอง หลังจากนี้จะต้องรอผลการตรวจร่างกายของผู้บาดเจ็บจากแพทย์ ก่อนจะเรียกผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาสอบปากคำ กับพนักงานสอบสวน อัยการ เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ ทนายความ และสหวิชาชีพ มาร่วมสอบปากคำอีกครั้ง ก่อนจะแจ้งข้อหาตามขั้นตอนต่อไป