เริ่มจากเหตุรถยนต์ที่วิ่งมาตามถนนสายสุวินทวงศ์ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ขาเข้ากรุงเทพมหานคร หลายคันขับอยู่ดี ๆ ก็ลื่นไถลตกลงไปในคูน้ำข้างทางหน้าเต็นท์ขายรถมือสอง เฉพาะที่เรานำเสนอวันเดียว 9 คัน แต่ละคันสภาพพังเสียหาย ต้องใช้รถมาช่วยเคลื่อนย้ายไปอู่ซ่อม
เรื่องนี้ รองผู้อำนวยการแขวงการทางฉะเชิงเทรา และ ผู้กำกับการ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่พบสาเหตุเกิดจากสารเคมีที่รถบรรทุกทำตกไว้ละลายออกเป็นคราบสีขาวไหลตามพื้นถนน เป็นเหตุให้ถนนลื่นจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
เบื้องต้น ได้วางกรวยยาง และติดตั้งสัญญาณไฟเตือนในจุดที่สารเคมีไหลเปื้อน และนำรถแรงดันสูงฉีด และใช้น้ำยาขัดพื้นล้างคราบสารเคมี นอกจากนี้ ยังเตรียมสำรวจพื้นผิวถนนเพื่อเพิ่มความหนืดของถนนให้มากขึ้นต่อไป
อีกเหตุที่เรานำเสนอไปแล้ว คือ เหตุบนถนนไทรโยค-กาญจนบุรี ช่วงบริเวณทางโค้งวัดพลุปู รถยนต์วิ่งมาด้วยความเร็วเหยียบน้ำที่ขังบนผิวถนนจนเหินพลิกคว่ำ 1 ตลบ กลับมาอยู่ในลักษณะเดิม ก่อนไหลจอดข้างทาง
โดย แขวงการทางกาญจนบุรี ชี้แจงว่า บริเวณดังกล่าวเป็นช่วงทางโค้ง จึงออกแบบพื้นผิวถนนทั้ง 2 ฝั่ง ให้เอียงยกสูงเพื่อรับรองการเข้าโค้ง เมื่อฝนตกมีน้ำไหลมารวมกันบริเวณเกาะกลางถนน จึงทำท่อระบายน้ำ แต่ 1-2 วันนี้ มีฝนตกหนัก อีกทั้งมีเศษดินเศษหญ้าไปกีดขวางทางระบายน้ำ ทำให้มีน้ำขังบริเวณเลนขวาสุดเกิดเป็นแอ่งน้ำ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำสิ่งกีดขวางออกจากปากท่อเพิ่มความสะดวกในการระบายน้ำ รวมถึงติดตั้งป้ายเตือนผู้ใช้รถให้ระมัดระวังในช่วงบริเวณดังกล่าวที่เป็นทางโค้งและอาจมีน้ำท่วมขังด้วย