จากกรณีการเสียชีวิตปริศนาของชายอายุ 23 ปี ที่เพิ่งกลับมาจากประเทศเยอรมนี เพื่อจะมาผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร แต่กลับมาถูกพบเป็นศพโดนไฟคลอก อยู่บริเวณหลังโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (11 ต.ค.) ทางพนักงานสอบสวน สภ.ประโคนชัย ได้เรียกหญิงที่เห็นชายอายุ 23 ปี ก่อนจะเสียชีวิต พร้อมครอบครัวผู้เสียชีวิตเข้าให้ปากคำที่โรงพัก
หญิงคนดังกล่าว เล่าให้ว่า คืนเกิดเหตุเห็นผู้เสียชีวิตเดินผ่านหน้าบ้านไป แต่ไม่ได้ถามว่าจะไปไหน และไม่ได้สังเกตสีหน้าท่าทางว่าเป็นอย่างไร แต่คิดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะเดินไปที่ตู้กดน้ำมันหยอดเหรียญ กระทั่งในช่วงเช้ามาทราบข่าว ว่าผู้เสียชีวิตถูกฆ่าเผาอำพรางศพหลังโรงเรียนแล้ว
ส่วนลุงของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลานไปอยู่กับแม่ที่ประเทศเยอรมนี ก่อนจะกลับมาอยู่ที่ประเทศไทย หลังจากนั้นญาติจับได้ว่าเสพยาเสพติด จึงส่งเข้ารับการบำบัด เมื่ออาการดีขึ้น ทางญาติ ๆ จึงตัดสินใจส่งหลานไปอยู่กับแม่ที่ประเทศเยอรมนีอีกครั้ง เพราะจะได้ห่างจากยาเสพติด กระทั่งล่าสุดได้กลับมาอยู่ที่ประเทศไทยตามเดิมพร้อมกับแม่
ส่วนตัวไม่เชื่อว่าหลานจะฆ่าตัวตาย เพราะหลานเป็นคนรักตัวเอง ประกอบกับร่องรอยไหม้ที่พบ ไม่น่าจะทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ จึงตั้งข้อสังเกตว่า หากเป็นการจุดไฟเผาตัวเอง น่าจะมีร่องรอยการดิ้นทุรนทุรายบ้าง แต่จากร่องรอยเหมือนถูกทำให้เสียชีวิตก่อน แล้วจุดไฟเผาอำพรางทีหลัง อยากให้ตำรวจเร่งคลี่คลายดดีโดยเร็ว ไม่อยากให้หลานต้องเสียชีวิตไปเปล่า ๆ แบบนี้
เบื้องต้นพยานวัตถุในที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะกระเป๋าของผู้เสียชีวิต ตำรวจตรวจพบยาคลายเครียด สอดคล้องกับที่ทางครอบครัวบอกว่าผู้เสียชีวิตมีประวัติเคยเข้ารับการรักษาโรคซึมเศร้า ตั้งแต่ช่วงปี 2561 เป็นต้นมา และในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ญาติได้ยื่นขอใบรับรองแพทย์ เพื่อให้ผู้เสียชีวิตใช้ประกอบการผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร โดยวันนี้ (12 ต.ค.) ทางพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะลงพื้นที่ติดตามคดีนี้