นายกฯ เคยรับปากภาคเอกชนท่องเที่ยวว่าจะทำโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 และเสนอครม.หลายครั้งให้ไปคิดโครงการที่เคยทำแล้วสำเร็จมาก่อน จึงเป็นที่มาที่เสนอโครงการนี้เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ทั้งนี้ ความน่ากังวลในปี 66 ได้แก่ สถานการณ์เศรษฐกิจโลก ราคาพลังงาน การปรับขึ้นดอกเบี้ยแพงเพื่อคุมเงินเฟ้อ ที่อาจทำให้ค่าเงินผันผวน ส่วนเรื่องในประเทศ เป็นการกลับมาของภาคการท่องเที่ยวที่รวดเร็วมาก จนปรับตัวตามไม่ทัน เช่น โรงแรมเปิดบริการได้แค่ 70 ห้อง จากจำนวนทั้งหมด 100 ห้อง เนื่องจากพนักงานมีไม่เพียงพอ ทำให้ต้องเร่งดูแลปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวได้
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 คาดว่าจะทำให้เกิดมูลค่าเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 18,000 ล้านบาท ซึ่งนอกจากจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศแล้ว ยังสนับสนุนการฟื้นตัวของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศด้วย ส่วนงบประมาณที่เสนอขอ 8,700 ล้านบาท พิจารณาจากต้นทุนค่าใช้จ่าย ประมาณ 3,600 บาทต่อคน รวมค่ามูลค่าโรงแรมที่อุดหนุนให้ 40% ไม่เกิน 10 ห้องหรือคืนต่อคน และคูปองอิเล็กทรอนิกส์ที่ 600 บาทต่อวัน โดยครั้งนี้ไม่ช่วยค่าเดินทางเครื่องบินแล้ว มีระยะดำเนินการ 6 เดือน เช่น หากเริ่มในเดือนม.ค. 66 จะสิ้นสุดที่เดือนมิ.ย. 66 ส่วนงบส่งเสริมการตลาดที่เสนอขอ 1,500 ล้านบาท เพื่อดำเนินมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวทดแทนงบบูสเตอร์ ชอต เดิม ที่เคยเสนอขอผ่านเงินกู้โควิด-19 แต่ไม่ทันกำหนดการอนุมัติใช้เงินกู้ภายในสิ้นก.ย. 65