สนามข่าว 7 สี

เร่งตามจับวัยรุ่นยกพวกตะลุมบอน จ่อยิงคู่อริคาวงสุรา

สนามข่าว 7 สี - เหตุการณ์ที่มีกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคน พกไม้เบสบอล ยกพวกไม่ต่ำกว่า 10 คน ไปตะลุมบอนรุมทำร้ายชายอายุ 37 ปี และใช้ปืนรัวยิงจนบาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ตำรวจยืนยันจับกุมคนยิงได้แล้ว 1 ราย และกำลังจะขอศาลออกหมายจับคนร้ายอีก 6 ราย ที่ร่วมก่อเหตุในวันนี้

ความคืบหน้าเหตุการณ์ที่กลุ่มวัยรุ่นไม่ต่ำกว่าสิบคน ถือไม้เบสบอลไปที่บ้านหลังหนึ่ง ในชุมชน 70 ไร่ แขวงและเขตคลองเตย เหตุเกิดเมื่อช่วงประมาณ 01.00 น. ระหว่างคืนวันที่ 20 เข้าสู่คืนวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้นายวันฉัตร อายุ 37 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปพูดคุยกับมารดา และพี่ชายของผู้เสียชีวิต ซึ่งยอมรับว่าคนที่เป็นคู่อริโดยตรงของกลุ่มคนร้าย คือ พี่ชายของผู้เสียชีวิต ที่มีเรื่องบาดหมางกับหัวหน้ากลุ่มมานาน เคยกระทบกระทั่งกันหนักสุดถึงขั้นทำให้อีกฝ่ายแขนหัก ชนวนเหตุมาจากเรื่องที่มีการเข้าไปตักเตือนคนในกลุ่มของคู่อริ ที่มาต้มน้ำใบกระท่อมข้างวงสุรา ทำให้เกิดความไม่พอใจ นำเรื่องนี้ไปตามพวกมาก่อเหตุ แต่ไม่ได้ลงมือกับคู่กรณีโดยตรง เพราะตอนนั้นไม่อยู่บ้าน จึงลงมือกับผู้เสียชีวิตแทน

ด้านพันตำรวจเอก ดนุภัทร ขวัญพสุมนต์ ผู้กำกับการ สน.ท่าเรือ ระบุว่า คดีนี้ตำรวจจับกุม นายมานัส หรือเดี่ยว คนร้ายที่ใช้ปืนยิงผู้เสียชีวิตได้แล้ว ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงผู้เสียชีวิตจริง โดยสาเหตุมาจากปัญหาผิดใจกันเรื่องบุกรุกที่ดิน และเรื่องอื่น ๆ

ส่วนผลการสอบปากคำ และหลักฐานจากภาพวงจรปิด ทำให้พบข้อมูลของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งมีด้วยกัน 12 คน นอกจาก นายมานัส แล้ว ยังมีผู้ร่วมก่อเหตุที่ชัดเจนอีก 6 คน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะนำไปประกอบสำนวนคดี เพื่อขอศาลออกหมายจับ ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ในวันนี้

สำหรับประเด็นที่มีการพูดถึงว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด หรือบ่อนการพนัน จากการตรวจสอบยืนยันได้ว่า อาจเป็นเพียงลักษณะของการลักลอบเล่นพนันกันเองตามบ้าน ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุพบว่าเป็นกลุ่มที่ฝักใฝ่การเมือง คาดว่าต้องการเคลื่อนไหว เพื่อสร้างชื่อเสียงในพื้นที่ของตนเอง

สำหรับผลการตรวจสอบอาวุธปืนของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ พบว่าเป็นอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ดัดแปลงจากปืนบีบีกัน ซึ่งผู้ก่อเหตุพกติดตัวไปก่อเหตุเอง ไม่ได้มีบุคคลอื่นนำมาให้ใช้ก่อเหตุตามที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้