จากเหตุคาร์บอมบ์ภายในแฟลตตำรวจ สภ.เมือง จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และมีตำรวจเสียชีวิต 1 นาย เจ้าหน้าที่และชาวบ้านบาดเจ็บอีก 45 คน
เมื่อวานนี้ (23 พ.ย.) พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและได้รับผลกระทบ พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดขั้นสูงสุด ในการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยเฉพาะตามแหล่งชุมชน สถานที่ราชการ ที่มีประชาชนเข้ามาติดต่อราชการจำนวมาก นอกจากนี้ยังสั่งให้เพิ่มการตั้งด่านตรวจ จุดสกัด และเข้มงวดในการตรวจยานพาหนะตามด่านตรวจต่าง ๆ
ส่วนความคืบหน้าด้านคดี ชุดสืบสวนตรวจสอบพบว่ารถกระบะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุครั้งนี้ เป็นรถที่ซื้อต่อกันมาหลายทอด ล่าสุดพบตัวเจ้าของรถดังกล่าวและได้เชิญตัวมาให้ปากคำในเบื้องต้นแล้ว
โดยเจ้าของรถดังกล่าว ให้ข้อมูลว่าเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ขายรถให้คนอื่นไปแล้วในราคา 80,000 บาท และใช้วิธีการโอนลอย แต่สามารถจดจำใบหน้าของคนที่มาซื้อรถได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด จุดที่อ้างว่ามีการซื้อขายรถกระบะคันดังกล่าว เพื่อเร่งสืบหาว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายหรือไม่
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ยอมรับว่า ครั้งนี้ยากต่อการระวังเหตุ เพราะรถที่นำมาใช้ก่อเหตุ ไม่ได้อยู่ในระบบการแจ้งหาย หรือถูกปล้น ถือเป็นรูปแบบใหม่ที่คนร้ายนำมาใช้
ด้าน นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ลงพื้นที่มาตรวจสอบจุดเกิดเหตุเช่นกัน ระบุว่า ญาติผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินเยียวยา 500,000 บาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นได้รับเงินเยียวยาคนละ 10,000 บาท ถ้าต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน จะได้ไม่เกิน 500,000 บาท