สนามข่าว 7 สี - กัน จอมพลัง พาแม่ลูกที่ถูกกลุ่มวัยรุ่น "เมาน้ำกระท่อม" บุกรุมทำร้ายถึงในบ้าน แล้วใช้มีดแทงแม่ที่เข้าไปห้ามปรามจนได้รับบาดเจ็บ ไปติดตามความคืบหน้าคดี หลังมีตำรวจนายหนึ่งอ้างเป็นพนักงานสอบสวนติดต่อขอให้มาไกล่เกลี่ย ทำให้กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กัน จอมพลัง" พร้อมด้วยวัยรุ่นอายุ 19 ปี และมารดา ไปติดตามความคืบหน้าคดีที่ สน.ดินแดง พร้อมกับเล่าที่มาที่ไปของเรื่องนี้ให้ฟังอีกครั้งว่า ครอบครัวผู้เสียหายเพิ่งย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ได้ประมาณ 6 เดือน มาอาศัยเช่าบ้านอยู่ภายในซอยประชาสงเคราะห์ 14 ที่เกิดเหตุ โดยเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม กลุ่มผู้ก่อเหตุซึ่งก็มีบางคนที่รู้จักกัน ได้มานั่งเล่นและกินน้ำกระท่อมกันในบ้านของตนเองจนดึก วันนั้นผู้เสียหายได้เข้าไปเตือน และขอให้ไปกินที่อื่น เพราะส่งเสียงรบกวนผู้เสียหายและแฟนสาวที่ต้องการพักผ่อนเพราะไม่ค่อยสบาย ทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุเริ่มเกิดความไม่พอใจ
ต่อมาวันที่ 15 ตุลาคม กลุ่มผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์มาจอดอยู่ที่หน้าบ้านได้พักหนึ่ง ก่อนที่ผู้ก่อเหตุ 3 คน คือ นายธนวิชญ์, นายวรัญชิต และ นายเขตต์ชัย จะบุกเข้ามารุมทำร้าย ตอนนั้นสังเกตเห็นว่า นายธนวิชญ์ ถือมีดเข้ามาด้วย จึงคว้ามีดที่วางอยู่ใกล้ตัวแทงสวนไปที่ไหล่ของ นายธนวิชญ์ และถูกหน้าอกของ นายเขตต์ชัย จังหวะนั้นมารดาได้ยินเสียงดังโวยวาย จึงลงจากบ้านมาดู และพยายามห้ามปราม จึงถูกคู่กรณีแทงเข้าที่หลังใต้สะบักขวา ก่อนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุจะพากันหลบหนีไป
ขณะที่ มารดาผู้เสียหาย ยืนยันว่า วันเกิดเหตุกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คน บุกรุกเข้ามาทำร้ายร่างกายลูกถึงในบ้าน ตนพยายามป้องกันลูกจนได้รับบาดเจ็บไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้มีภาพวงจรปิดยืนยัน ส่วนที่ทำให้กังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากมีตำรวจที่ดูแลคดีติดต่อไปหา บอกว่าให้หาผู้ใหญ่มาไกล่เกลี่ย จึงต้องการทราบข้อเท็จจริงจากตำรวจ
หลังเข้าพบ พันตำรวจโท โสภณ แย้มชมชื่น รองผู้กำกับการ สน.ดินแดง "กัน จอมพลัง" เปิดเผยว่า ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มาดำเนินคดีแล้ว ในข้อหา ทำร้ายร่างกายและบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน และให้ประกันตัวไป ส่วนสำนวนการสอบสวนจะส่งให้กับอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่าคู่กรณีแจ้งความกลับด้วยนั้น จากการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีการแจ้งความกลับ
และที่ก่อนหน้านี้มีพนักงานสอบสวนโทรไปหาผู้เสียหาย บอกให้หาผู้ใหญ่มาไกล่เกลี่ยนั้น จากการตรวจสอบเป็นตำรวจจริง และมีการโทรไปจริง ซึ่งประเด็นนี้ได้ขอให้ตรวจสอบว่า ตำรวจนายนี้ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอนหรือไม่
