นักโทษหลบหนีที่ขอนแก่น ต้องเคลียร์อีก โดยภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลพล อ.พล จ.ขอนแก่น เวลา 03.32 น. ของวันที่ 25 พ.ย.2565 สามารถบันทึกภาพนักโทษชายบัณฑิต อายุ 41 ปี ชาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เดินออกมาหลังห้องตึกศัลยกรรม ก่อนที่จะมองไปรอบ ๆ เพื่อวางแผนที่จะหลบหนีออกจากโรงพยาบาล กระทั่งสบโอกาสจึงกระโดดออกจากระเบียงวิ่งหนีไป หลังจากนั้นประมาณ 1 นาที เจ้าหน้าที่เรือนจำที่เฝ้านักโทษชายดังกล่าวได้วิ่งตามแต่ไม่สามารถติดตามตัวได้ จากนั้นกระทั่งเจ้าหน้าที่เรือนจำ ตำรวจ สภ.พล และสมาคม วี.อาร์.กู้ภัยมิตรภาพ ช่วยการติดตามจับกุมตัวได้เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่นักโทษชายบัณฑิต นอนนิ่งเพื่อหลบซ่อนอยู่ในรถยนต์เก่าไม่สามารถใช้งานได้ ในโกดังร้าง
นักโทษหลบหนีครั้งนี้ นายพนมกร พจนา ผู้บัญชาการเรือนจำพล เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กรมราชทัณฑ์ สั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาสาเหตุว่าทำไมนักโทษชาย คนดังกล่าวถึงหลบหนีออกจากโรงพยาบาลได้ ซึ่งในวันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่เรือนจำ ได้เฝ้านักโทษชายบัณฑิต แต่ธรรมชาติของคนที่ถูกต้องโทษเมื่อถึงคุมขังในเรือนจำ เมื่อสบโอกาสก็จะหาทางหลบหนีเพื่อหาอิสรภาพ ซึ่งนักโทษชายบัณฑิตจะถูกเพิ่มโทษในข้อกล่าวหา หลบหนีขณะถูกคุมขังตัวด้วย
สำหรับนักโทษบัณฑิต ถูกจับในคดียาเสพติด 6,000 เม็ด พื้นที่ สภ.ชนบท จ.ขอนแก่น ถูกควบคุมตัวมาคุมขังที่เรือนจำอำเภอพล ช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ช่วงที่ถูกคุมขัง มักมีอาการปวดท้องบ่อยครั้ง ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่พยาบาลของเรือนจำดูแลอย่างต่อเนื่อง แต่นักโทษมีอาการปวดรุนแรง จึงประสานแพทย์ที่รพ.พล มาตรวจดูอาการ แพทย์สงสัยว่าน่าจะเป็นไส้ติ่ง จึงต้องส่งตัวไปรักษาในรพ.พล และในช่วงเย็นวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา จึงส่งตัวนักโทษเข้าไปรักษาที่รพ.พล โดยการตรวจของแพทย์ในเบื้องต้นก็ยังสงสัยว่าจะเป็นไส้ติ่ง แต่ต้องประสานแพทย์เฉพาะทางมาตรวจซ้ำอีกครั้งในเช้าวันที่ 25 พ.ย.2565 แต่ช่วงที่รอแพทย์เฉพาะทางมาตรวจนั้น แพทย์ในโรงพยาบาล ให้นักโทษนอนพักรอตรวจที่ตึกศัลยกรรมชาย รพ.พล การนำตัวนักโทษไปรักษานอกเรือนจำนั้น จะมีเจ้าหน้าที่ของเรือนจำเฝ้าตลอดเวลา ซึ่งในเคสของนักโทษชื่อนายบัณฑิตก็เช่นกัน เป็นช่วงที่ต้องพักรักษาตัวใน รพ.พล ก็เป็นช่วงเดียวกับที่มีนักโทษอีกรายนอนรักษาตัวในจุดเดียวกัน จึงมีเจ้าหน้าที่ของเรือนจำเฝ้านักโทษที่รักษาตัวในรพ.พล รวม 3 นาย แต่ช่วงที่นักโทษหนีนั้นไม่มีใครเห็น และอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงให้เสร็จโดยเร็วที่สุดว่า เกิดความบกพร่องในจุดใดหรือไม่ คาดว่าจะทราบผลสอบไม่เกิน 5 วัน 7 วัน เพราะไม่ใช่เรื่องซับซ้อน