นักเทคนิคการแพทย์ ภาคภูมิ เดชหัสดิน เจ้าของเพจ หมอแล็บแพนด้า นำภาพการโพสต์ข้อความของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่อ้างตัวเป็นนักโทษชาย โพสต์ภาพข้อเท้าติดกำไล EM ซึ่งเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ควบคุมความประพฤติผู้ต้องหา หรือผู้ที่มีความผิดตามกฎหมาย พร้อมข้อความ "ประกาศหาคนถอดกำไล EM ที่ข้อเท้า ยื่นข้อเสนอให้เงิน 1 แสนบาท หากถอดกำไลได้" นอกจากนี้ ยังได้โพสต์แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมอีกว่า "ตนเองโดนคดีร่วมกันฆ่า แต่มีคนรับจบไป เลยรีบไปเยียวยาผู้ตายเป็นเงินจำนวนหนึ่งหลักแสนปลาย ๆ ญาติผู้ตายเลยไม่ติดใจเอาความ จากนั้นก็ยัดเงินให้ตำรวจกับอัยการเลยทำให้หลักฐานไม่ถึงตนเอง จึงโดนลงโทษคุมประพฤติ 3 ปี ทำประโยชน์แก่สังคม 60 ชั่วโมง" ซึ่งก็มีคนเข้าไปแสดงความเห็นเรื่องนี้ค่อนข้างหลากหลาย ถามถึงหน่วยงานต่าง ๆ ว่า จะดำเนินการอย่างไร อีกทั้งยังขอให้รื้อคดีเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ทีมข่าวสอบถามเรื่องนี้กับ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง ในฐานะโฆษกอัยการสูงสุด ก็ได้รับคำตอบว่า ผู้ที่ต้องรับผิดชอบดูแลกรณีผู้ที่กระทำผิดและถูกคำสั่งให้ใส่กำไล EM คือ กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม หากพบมีการฝ่าฝืนเงื่อนไข ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล กรมคุมประพฤติจะต้องทำเรื่องขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนเงื่อนไขการควบคุมตัว และนำตัวผู้กระทำผิดไปพิจารณาโทษใหม่ หรือขอให้มีคำสั่งนำตัวไปขังในเรือนจำตามคำพิพากษาเดิม ก่อนการลดหย่อนโทษ
ส่วนที่มีการอ้างเรื่องยัดเงิน หรือติดสินบนตำรวจและอัยการ เนื่องจากไม่เห็นสำนวนคดีจึงชี้แจงรายละเอียดไม่ได้ แต่คาดเดาว่าไม่น่าเป็นความจริง เนื่องจากการที่ผู้กระทำผิดจะถูกคำสั่งให้สวมกำไล EM ได้ หมายถึงต้องมีการทำสำนวนคดี และอัยการสั่งฟ้องแล้ว ศาลจึงพิจารณาอย่างหนึ่งอย่างใด หากต้องยัดเงินเพื่อติดสินบนจริง ควรเป็นการวิ่งเต้นเพื่อให้หลุดพ้นทางคดีมากกว่า กรณีที่เกิดขึ้นจะเรียนไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อให้พิจารณาว่าควรจะมีคำสั่งดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดหรือไม่
ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงเรื่องนี้เช่นกันว่า กรณีดังกล่าวต้องดูผลคำสั่งของศาลก่อนว่าเป็นการสั่งคุมประพฤติจากศาลยุติธรรม หรือจากกรมคุมประพฤติ เพราะยังไม่ทราบรายละเอียดว่ามีการกำหนดโทษแท้จริงอย่างไร ก่อนจะลดหย่อนโทษเหลือเพียงการคุมประพฤติเป็นเวลา 3 ปี และให้ทำงานสาธารณประโยชน์เป็นเวลา 60 ชั่วโมง ตามที่อ้าง
ส่วนเรื่องการว่าจ้างหาคนถอดกำไล EM เชื่อว่าไม่สามารถถอดได้ง่าย ๆ เนื่องจากอุปกรณ์ชิ้นนี้ไม่มีวางจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป นอตแต่ละตัวที่ขันยึดก็เป็นนอตชนิดพิเศษ หรือหากจะใช้วิธีตัดสายยางที่รัดข้อเท้าก็จะไปถูกสายไฟที่เชื่อมกับวงจรไว้ ซึ่งหากทำเช่นนั้นจะเป็นการทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ต้องได้รับโทษเพิ่ม