หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า หากตราบใดตัวโครงสร้าง สมาชิก ที่ดำเนินการไป ก็ไม่เข้าข่ายควบรวม เพราะการควบรวม หมายถึงการที่มีพรรค 2 พรรค ซึ่งเป็นข้อห้ามในสมัยการประชุมที่ห้ามควบรวม แต่มีหลายพรรคใช้กลไกในการยุบพรรคตัวเอง และอาศัยบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญคุ้มครองสิทธิสมาชิก ไปสังกัดพรรคอื่นเสมือนกับถูกยุบพรรค ถือว่าเป็นคนละประเด็น หากภายใน 30 วัน สามารถย้ายไปสังกัดพรรคอื่นได้ ความเป็นสมาชิกภาพยังคงอยู่ ไม่เรียกว่า ควบรวม หลายพรรคจึงใช้ช่องทางนี้
“เป็นไปได้ โดยขยายความว่ากรรมการบริหารพรรค มีมติว่าไม่สามารถดำเนินกิจกรรมต่อไปได้ เนื่องจากมีภาระหนี้สิน ไม่มีความรู้ไม่มีความสามารถ ก็เป็นเหตุที่ยุบพรรคตัวเอง และสมาชิกที่เป็น สส.ก็ย้ายไปสังกัดพรรคอื่นได้ ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง หรือการขับออกไป อาศัยเงื่อนไขการคุ้มครองสมาชิกที่เป็น สส.ไปสังกัดพรรคใหม่ได้ในระยะเวลา 30 วัน เหตุนี้จึงเป็นกลไกวิธีการที่จะเปลี่ยนพรรคหรือย้ายพรรค โดยอาศัยช่องทางของกฎหมาย ก็มีความเป็นไปได้ว่าสองพรรคดังกล่าว ที่บอกว่าเป็นพรรคพี่พรรคน้อง อาจจะไปแล้วไม่ไหว หรือเลือกตั้งแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะเกิดการใช้วิธีกลไกต่างๆ ที่มาตามช่องทางกฎหมาย และย้ายไปอยู่ด้วยกันได้ แต่มองว่าเรื่องดังกล่าวไม่กระทบอะไรกับพรรคเพื่อไทยเลย” นพ.ชลน่าน ระบุ