กระจายกำลังค้น 33 จุด 9 จังหวัด รวบรวมหลักฐานนายทุนจีนสีเทา

กระจายกำลังค้น 33 จุด 9 จังหวัด รวบรวมหลักฐานนายทุนจีนสีเทา

View icon 212
วันที่ 30 พ.ย. 2565 | 11.02 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กระจายกำลังค้น 33 จุด 9 จังหวัด รวบรวมหลักฐาน "นายทุนจีนสีเทา" เน้นหนักพื้นที่สมุทรปราการ ที่เป็นธุรกิจทำรายได้ และครอบครองเครื่องบินส่วนตัว

ปฏิบัติการเข้าตรวจค้นครั้งนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า วันนี้ (30 พ.ย.65) โดยกำลังเจ้าหน้าที่ได้กระจายเข้า ตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 33  จุด ใน 9 จังหวัด อาทิ กรุงเทพมหานคร 12 หมาย ภูเก็ต 8 หมาย สมุทรปราการ 6 หมาย ชลบุรี 4 หมาย ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 1 หมายค้น  โดยพื้นที่หลักจะอยู่ใน จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีรายชื่อเป็นผู้ครอบครองเครื่องบินส่วนตัว รวมทั้งรถทัวร์ให้บริการนักท่องเที่ยวกว่า 80 คัน ไม่รวมโรงแรมที่มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาทแต่กลับมีมูลค่าการก่อสร้างหลายร้อยล้านบาท

ทั้งนี้จากการตรวจสอบเส้นทางการบริหารจัดการ พบว่า มีบริษัท 14 แห่ง เป็นทรัพย์สินที่ทำรายได้ให้กับนายตู้ ห่าว และเกินกว่าครึ่ง มีชื่อพี่ชายของภรรยาเป็นกรรมการบริหาร ก่อนที่บางส่วนจะถูกถ่ายโอน หลังจากนายตู้ ห่าว ได้รับสัญชาติไทย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกด้วยว่าในช่วงบ่ายจะนำ ป.ป.ส. ปปง. และ พฐ. เข้าไปร่วมตรวจค้น ยึดอายัดเครื่องบินส่วนตัว ซึ่งจอดอยู่ที่สนามบินบ่อฝ้าย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยจะมีการตรวจเก็บดีเอ็นเอ และหาสารเสพติด รวมทั้งเอกสารที่อยู่ภายในเครื่องบิน ซึ่งจะเป็นข้อมูลเส้นทางการบินที่จะสืบทรัพย์ต่อไปได้ว่ามีการเดินทางไปที่ไหนอย่างไรบ้าง

“สำหรับในคดีนี้อาจจะใช้เวลาอีกอย่างน้อย 3 สัปดาห์ในการสรุปพยานหลักฐาน แต่ตัวการหลัก ซึ่งเป็นนายทุนจีนที่ถูกระบุว่ามี 5 คน ขณะนี้จับกุมไปแล้ว 4 คน เหลือเฉพาะนายหมิง ซึ่งเดินทางหลบหนีออกไปต่างประเทศแล้ว และจากเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงหากันในหลายคดี 4 ตำรวจนครบาล  คือ ยานนาวา มักกะสัน คลองตัน และสุทธิสาร อาจออกหมายจับบุคคลเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่งเร็วๆ นี้” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุ

ขณะเดียวกัน วานนี้ (29 พ.ย.65) เจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าไปจับกุมนายเฉิน เจ้าฮุ้ย หรือโทนี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา  ในความผิดฐาน “ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุน หรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พร้อมกับตรวจค้นพื้นที่อีก 3 จุด คือ เป็นที่ตั้งบริษัท 2 แห่ง และห้องชุดในคอนโดมิเนียม 1 แห่ง โดยพบว่ามีคนไทยเป็นผู้บริหาร โดยตำรวจจะดำเนินคดีฐานเป็นนอมินี