คนร้ายถือมีดบุกเดี่ยวชิงทองหนัก 1 บาท จำนวน 29 เส้น มูลค่ากว่า 870,000 บาท โดยกล้องวงจรปิดภายในร้าน จับภาพคนร้ายเอาไว้ได้ ทางเจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัว
วันนี้ (30 พ.ย. 65) ร.ต.ท.หญิง ชนิกานต์ เสถียรไชยกิจ ร้อยเวร สอบสวน สภ.คูคต รับแจ้งมีเหตุคนร้ายชิงทอง ที่เกิดเหตุร้านทองออโรร่า ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.มนัสเวท ทองอิ่ม ผกก.สภ.คูคต เจ้าหน้าที่ สภ.คูคต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อเร่งติดตามตัวคนร้าย
ณ ในที่เกิดเหตุเป็นร้านทอง พบพนักงานหญิง 2 คน อยู่ในอาการตื่นตกใจ หลังถูกคนร้ายเป็นชาย 1 คน อายุประมาณ 30-35 ปี ได้ทำทีมาจอดรถที่หน้าร้าน ใช้อาวุธมีดปลายแหลม ก่อเหตุชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำน้ำหนักน้ำหนัก 1 บาท จำนวน 29 เส้นแล้วหลบหนีไป
โดยพนักงานของร้านทอง ยังอยู่ในอาการตกใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเล่าว่าหลังจากคนร้ายทำทีมาเลือกทอง ก่อนใช้อาวุธมีดปลายแหลม จี้พนักงาน และดึงมือพนักงาน ไปที่ถาดโชว์ทองด้านบน ก่อนกวาดทองรูปพรรณ น้ำหนักเส้นละ 1 บาทไป จำนวน 29 เส้น รวมราคากว่า 870,000 บาท
ด้านพยานที่เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ตนเองได้ยินคนร้ายกระชากประตู และเข้าไปก่อเหตุ จึงรีบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย โดยตนได้ถ่ายรูปรถ และคนร้ายเอาไว้ได้ ก่อนที่คนร้ายจะขับรถหลบหนีไป โดยคนร้ายเป็นชาย 1 คน ที่ขับรถจักรยานยนต์ สีขาว และไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
ทาง พ.ต.อ.มนัสเวท ทองอิ่ม ผกก.สภ.คูคต เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าขณะเกิดเหตุมีพนักงานหญิงอยู่ในร้ายจำนวน 2 คน เวลา 11.56 น. มีคนร้ายชาย 1 คน ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คนร้ายสวมเสื้อกร้าม สีขาว สวมหน้ากากอนามัยสีขาว สวมแว่นสายตา ใส่กางเกงขายาวสีดำ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ15 เซนติเมตร เข้ามาข่มขู่พนักงานหญิง ก่อนจะเข้าทางประตูเข้าออกเคาน์เตอร์ แล้วเข้าไปคว้าสร้อยคอทองคำใส่มือ แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งแกว่งมีดไปมา ก่อนจะพยายามจะออกจากประตูนิรภัย แต่พนักงานได้กดปิดไว้ คนร้ายจึงใช้อาวุธมีดข่มขู่พนักงานเพื่อให้เปิดประตู แล้วขี่จักรยานยนต์แล้วขับหลบหนีไปมุ่งหน้าถนนลำลูกกา
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเพิ่งจะเข้ามาตรวจสอบร้านทองลงลายมือชื่อออกไปประมาณ 5 นาที ก่อนที่คนร้ายจะก่อเหตุ หลังเกิดเหตุได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ชุดงานป้องกันปราบปราม ออกไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง เน้นทางที่คาดว่า คนร้ายขับผ่าน พร้อมให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจพยานหลักฐานเพื่อใช้เป็นหลักฐานใมนการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
