ไทยประกาศความสำเร็จบนเวทีโลก 3 ปีซ้อน ลดการติดเชื้อ HIV จากแม่สู่ลูก 3.5 พันคนต่อปี มีเด็กทารกที่ติดเชื้อต่ำกว่า 50 คนต่อปี แนะหญิงท้องติดเชื้อเอชไอวี รีบฝากครรภ์ ก่อน 12 สัปดาห์ เพื่อการดูแลอย่างถูกต้อง
วันนี้ (1 ธ.ค.65) นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย เผยว่า ในปีนี้ UNAIDS กำหนดแนวคิดการณรงค์วันเอดส์โลก ในปี 2565 ว่า “Equalize ทำให้เท่าเทียม” คือ สิทธิการเข้าถึงการตรวจ การคัดกรอง การได้รับการรักษาอย่างเท่าเทียมกันทุกเพศ ทุกวัย โดยประเทศไทยมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ ปี 2560–2573 คือ ไม่ติด ไม่ตาย ไม่ตีตรา มุ่งมั่นลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ไม่เกิน 1,000 คนต่อปี ลดการเสียชีวิต ในผู้ติดเชื้อเอชไอวีไม่เกิน 4,000 คนต่อปี และลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวีและเพศภาวะลง เหลือไม่เกินร้อยละ 10
ที่ผ่านมา กรมอนามัยให้ความสำคัญกับการดำเนินงานป้องกันการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีและซิฟิลิสจากแม่สู่ลูก โดยได้รับรางวัลจากองค์การอนามัยโลกในเวทีการประชุม Global Validation Advisory Committee ณ นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่ 2 ของโลกในการประกาศความสำเร็จดังกล่าวเป็นครั้งที่ 3 นับจากครั้งที่ 1 เมื่อปี 2559 และครั้งที่ 2 เมื่อปี 2561 นอกจากนี้ ไทยยังคงรักษาคุณภาพในการดำเนินงานเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในทารกแรกเกิดจากหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวีให้ต่ำกว่าร้อยละ 2 หรือปีละประมาณ 3,500 คน ทำให้มีเด็กทารกที่ติดเชื้อเอชไอวีต่ำกว่า 50 คนต่อปี เนื่องจากมีความเข้มแข็งของระบบบริการสาธารณสุข โดยเฉพาะงานอนามัยแม่และเด็กมีการดำเนินงานที่มีคุณภาพครอบคลุมสถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีเป้าหมายลูกเกิดรอดแม่ปลอดภัยมานานกว่า 50 ปี
ทั้งนี้ การลดการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกต้องอาศัยความร่วมมือครอบครัว ชุมชน สังคมและสร้างความเท่าเทียม โดยสนับสนุนหญิงตั้งครรภ์ หญิงหลังคลอด รวมทั้งลูกและครอบครัวที่ติดเชื้อเอชไอวีให้ได้รับการดูแลอย่างครอบคลุมและต่อเนื่อง คือ ฝากครรภ์โดยเร็วก่อน 12 สัปดาห์ เพื่อได้รับการดูแลสุขภาพตนเองและลูกในครรภ์ รับการปรึกษาพร้อมสามี เพื่อตรวจหาโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม และตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี
หากหญิงตั้งครรภ์และคู่มีผลการตรวจเลือดเอชไอวีเป็นบวก จะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมโดยหญิงตั้งครรภ์จะได้รับยาต้านไวรัสที่มีฤทธิ์ประสิทธิภาพสูง (HAART) เพื่อป้องกันการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูก ส่วนเด็กที่เกิดจากแม่ที่ติดเชื้อเอชไอวีจะได้รับยาต้านไวรัสที่มีฤทธิ์ประสิทธิภาพสูง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และได้รับนมผสมเพื่อทดแทนนมแม่นานถึง 18 เดือน
