ตำรวจแจงยึดทรัพย์นายทุนจีนธุรกิจสีเทาแล้ว 5,000 ล้านบาท

View icon 69
วันที่ 2 ธ.ค. 2565 | 07.09 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - หลังจากที่ตำรวจนำกำลังเข้าตรวจค้นเพื่อยึดทรัพย์เครือข่ายนายทุนจีนธุรกิจสีเทา โดยเฉพาะของนายตู้ห่าว ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา มีการตรวจค้นไป 40 กว่าจุด เพื่อตรวจหาสิ่งผิดกฎหมาย และยึดทรัพย์ โดยเฉพาะเครื่องบินส่วนตัว รวม ๆ แล้วขณะนี้เจ้าหน้าที่ยึดอายัดทรัพย์ไปตรวจสอบแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท

พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยผลการตรวจค้นเครือข่ายธุรกิจสีเทาของกลุ่มนายทุนจีนในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ว่า ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถยึดอายัดทรัพย์สินของนายตู้ห่าว คนเดียวได้กว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมเครือข่ายอื่น ๆ เช่น นางสาวพัชรินทร์ และนายหลินหลง ซึ่งตำรวจจะออกหมายเรียกให้มาชี้แจงที่มาของทรัพย์ต่อไป แต่ทั้งคู่ยังคงหลบหนีอยู่ และยังต้องขยายผลตามเส้นทางการเงิน จากข้อมูลที่ว่ายังมีเงินสดอยู่อีกจำนวนมาก ที่ตำรวจต้องตามอายัดให้ได้ ทั้งนี้จากการสืบสวนสอบสวนยังไม่พบพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสามารถดำเนินคดีกับนักการเมืองที่เข้าไปเกี่ยวข้องได้

ส่วนบุคคลที่เป็นนอมินี ต้องมีการดำเนินคดี ซึ่งส่วนใหญ่คนเหล่านี้เป็นคนจีนที่สวมบัตรประชาชนคนไทย โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งในขณะนี้การสืบสวนและสอบสวนดำเนินการไปมากกว่า 90% สามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนเครือข่ายได้แล้ว 102 คน รวมถึงผู้ต้องหารายใหญ่ 5 คน ยกเว้นนายหมิง ที่อยู่ระหว่างการหลบหนีไปยังต่างประเทศ ขณะนี้ออกหมายจับสากลแล้ว คาดว่าภายใน 3 สัปดาห์จะแล้วเสร็จ แต่ยังไม่สามารถส่งสำนวนไปยังอัยการได้

และหลังจากดำเนินการกับนายตู้ห่าว เรียบร้อยแล้ว จะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ไม่ว่าจะเป็นตำรวจตรวจคนเข้าเมือง, ตำรวจ สน.ลาดพร้าว, สน.ยานนาวา ซึ่งจะต้องนำมาดำเนินคดีทั้งหมด เพราะเป็นด่านหน้าในการเปิดช่องให้คนจีนเหล่านี้เข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย

ส่วนการจับกุมนายโทนี่ หรือ เฉินเจ้าฮุ้ย เจ้าของสถานบันเทิงย่านห้วยขวาง ตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหาเป็นคนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งได้รับการประกันตัวไปแล้ว เพราะความผิดฐานดังกล่าวมีอัตราโทษไม่สูง

ขณะที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้นำข้อมูลเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหาและเครือข่ายของนายตู้ห่าว จำนวน 1 ปึกใหญ่ไปมอบให้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ เพื่อเป็นข้อมูลให้ตำรวจสามารถตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน และตรวจยึดอายัดทรัพย์สินต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น รวมถึงจะขยายผลไปถึงกลุ่มนอมินี หรือกลุ่มผู้ถือครองทรัพย์สินแทน

จากนั้น นายชูวิทย์ ก็นัดสื่อมวลชนเปิดแถลงเพิ่มเติมที่โรมแรมย่านสุขุมวิทของลูกชายตนเอง พร้อมกับอธิบายแผนผังความเชื่อมโยงนางสาวพัชรินทร์ นอมินีคนสำคัญของนายตู้ห่าว รวมถึงเส้นทางการเงินต่าง ๆ ใช้เวลาไปไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง เพื่ออธิบายรายละเอียด และยกตัวอย่างรายการซื้อขาย, การครอบครองที่ดิน มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท และข้อมูลที่พบว่านายตู้ห่าว และพวก มีสำนักทนายความเป็นของตนเอง เพื่อใช้ในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่สนใจจะเดินทางมาลงทุนธุรกิจสีเทาในไทย

หลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ก็ไปเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งคู่กรณีที่เคยบุกมาที่โรงแรม และมีปากมีเสียงกันบ่อยครั้งจริง ๆ ตามที่ได้ประกาศไว้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง