หลานชายวัย 28 ปี เมาเหล้า ใช้ท่อนไม้-เหล็ก ตียายจนล้มแล้วกระทืบซ้ำอกยุบตายคาที่

หลานชายวัย 28 ปี เมาเหล้า ใช้ท่อนไม้-เหล็ก ตียายจนล้มแล้วกระทืบซ้ำอกยุบตายคาที่

View icon 328
วันที่ 2 ธ.ค. 2565 | 09.19 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
หลายชายวัย 28 ปี เมาเหล้าขอเงินยายวัย 83 ปี ก่อนใช้ไม้-เหล็ก ตียายจนล้มแล้วกระทืบซ้ำ จนหน้าอกยุบผิดรูปเสียชีวิตคาที่ ก่อนตายยายร้องขอชีวิต “อย่าฆ่ายาย อย่าฆ่ายาย” อ้างเห็นยายถือไม้อยู่แล้วจะเข้ามาทำร้ายตัวเอง

วันนี้ (2 ธ.ค. 65) พ.ต.ท.อภินันท์ รักศิลป์ รองผกก. (สอบสวน) สภ.น้ำพอง ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันมีผู้เสียชีวิต ที่บ้านหลังหนึ่ง ที่ ม.3 ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยและแพทย์เวรโรงพยาบาลน้ำพอง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง

ณ ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ทำการเกษตร มีบ้านชั้นเดียวยกใต้ถุนสูง หน้าบ้านพบร่างของ นางลอย อายุ 83 ปี มีบาดแผลและรอยช้ำตามแขนขา เสียชีวิตเลือดออกปาก หน้าอกยุบผิดรูป พร้อมทั้งพบผู้ก่อเหตุเป็นหลานชายแท้ ๆ ของผู้เสียชีวิต ชื่อนายพล อายุ 28 ปี อยู่บ้านเดียวกันกับผู้เสียชีวิต ใกล้กันพบไม้คานที่นายพลใช้ตียาย ในสภาพไม้หักเป็น 2 ท่อน พร้อมทั้งมีท่อนเหล็กที่นายพล ใช้เป็นอาวุธตียายอีกชิ้นหนึ่งสภาพหักงอ

โดยทางตำรวจได้เก็บเป็นหลักฐานส่งตรวจหา DNA จากคราบเลือดที่ติดอยู่ที่ไม้คานและท่อนเหล็กมาประกอบสำนวน เนื่องจากเจ้าตัวยังให้การวกวนและปฏิเสธ ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก ในขณะที่ศพของผู้เสียชีวิตนั้น หลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ ก็ได้นำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลก่อนส่งต่อร่างให้กับญาติ ๆ รับไปประกอบพิธีทางศาสนา

ด้าน พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง เปิดเผยภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า จากการลงพื้นที่สืบสวนสอบสวน ทราบว่า ผู้เสียชีวิตกับผู้ก่อเหตุ เป็นยายหลานกัน อาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังเกิดเหตุรวม 3 คน โดยมีตาอีกคน ซึ่งคุณตาสามีผู้เสียชีวิตนั้น อายุมาก หูตาไม่ค่อยดี มองไม่ค่อยชัดเห็นเพียงลาง ๆ ต้องใช้ไม้เท้าในการเดินทางไปไหนมาไหน ช่วงก่อนเกิดเหตุนั้น นายพลที่อยู่ในอาการเมาสุรามาขอเงินยาย ซึ่งปกตินายพลนั้นมักจะมาขอทุกวันเพื่อนำไปซื้อสุรามานั่งดื่ม โดยนายพลซึ่งอยู่ในอาการเมาสุรา อ้างว่ายายถือไม้ในมือจะมาตีตัวเอง ซึ่งก็เป็นคำกล่าวอ้างของผู้ก่อเหตุ จึงไปหยิบเอาไม้คานที่อยู่ใกล้ ๆ กระหน่ำตียายจนล้มลงลากยายมาใช้เท้ากระทืบซ้ำที่หน้าอกหลายครั้งจนหน้าอกของยายหักยุบลงไปผิดรูป

โดยคุณตาได้ยินเสียงยายร้องขอชีวิตจากหลานชายว่า “อย่าฆ่ายาย อย่าฆ่ายาย” และยังเรียกตาให้ช่วย บอกว่า ซึ่งตาต้องรีบคว้าไม้เท้าแล้วลงมาจากบ้านพักซึ่งห่างไปจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5-6 เมตร แต่ยายถูกทำร้ายจนเสียชีวิตไปแล้ว ก่อนที่ตำรวจจะได้รับแจ้งและลงพื้นที่ตรวจสอบก่อนจะควบคุมตัวนายพล หลานชายที่ก่อเหตุฆ่ายายมาสอบปากคำที่โรงพัก ก่อนจะยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่ายายจริง

ส่วนสาเหตุจูงใจนั้น ยังไม่ชัดเจน แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นสาเหตุหลักมาจากการเมาสุราชัดเจน แต่ยาเสพติดตรวจฉี่แล้วไม่พบ จึงได้นำตัวส่งตรวจหาสารเสพติดอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เนื่องจากนายอรรถพลเคยถูกจับในคดีเสพยาเสพติดเมื่อปี 2562 เมื่อพ้นโทษออกมาก็มาอยู่บ้านกับตายาย ซึ่งทางตำรวจและทางผู้ใหญ่บ้านได้สุ่มเข้าตรวจฉี่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 จนปัจจุบันประมาณ 2 ปีไม่พบว่านายอรรถพลหวนกลับไปยุ่งกับยาเสพติด แต่จะมีพฤติกรรมคลั่ง โวยวาย หลังจากดื่มสุราทุกครั้ง หลังสอบปากคำเสร็จก็ได้แจ้งข้อหา ฆ่าบุพการี ให้นายพลทราบเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป