โคราชเด็ก 6 ขวบ เสียชีวิตจากโควิด พบมีโรคประจำตัวเรื้อรัง ไม่ได้ฉีดวัคซีรน กรมควบคุมโรคเตือนอากาศเย็นแนวโน้มติดเชื้อพุ่ง ควรสวมแมสก์ในที่สาธารณะ
เด็ก 6 ขวบ ติดโควิดเสียชีวิต นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยว่า การเสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ของเด็กอายุ 6 ขวบ ที่จังหวัดนครราชสีมานั้น กรมควบคุมโรคได้มอบหมายให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จ.นครราชสีมา ลงพื้นที่สอบสวนโรคร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ พบว่าเด็กที่เสียชีวิต มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง ประกอบกับไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด จึงทำให้มีอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต
ส่วนสถานการณ์การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ในเขตสุขภาพที่ 9 มีพื้นที่รับผิดชอบ 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ (5 เม.ย.– 11 พ.ย.65) พบว่า ประชาชนฉีดเข็มที่ 1 (ร้อยละ 75.56) เข็มที่ 2 (ร้อยละ 71.3) เข็มที่ 3 (ร้อยละ 33.8) เข็มที่ 4 (ร้อยละ 5) จึงขอแนะนำกลุ่มเสี่ยงได้แก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนหรือรับวัคซีนเข็มสุดท้ายนานเกิน 4 เดือนแล้ว เข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว
ช่วงนี้พบผู้ติดเชื้อและป่วยด้วยโรคโควิดเพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้คาดการณ์ไว้ เนื่องจากอากาศเริ่มเย็นลง และมีการเปิดเทอม รวมถึงมีวันหยุดยาว ประชาชนจึงเดินทางออกไปทำกิจกรรมต่างๆ สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 20 - 26 พ.ย.65 รายงานผู้ป่วย 4,914 คน เฉลี่ย 702 คนต่อวัน มีผู้ป่วยปอดอักเสบ 553 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 319 คน เสียชีวิต 74 คน เฉลี่ย 10 คนต่อวัน
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เด็กที่ไม่ฉีดวัคซีนเมื่อติดโควิดมีโอกาสป่วยหนักเนื่องจากเกิดกลุ่มอาการอักเสบหลายระบบของอวัยวะภายในในเด็ก (MIS-C) จนมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ แต่วัคซีนสามารถป้องกันภาวะการป่วยนี้ได้ จึงขอให้ผู้ปกครองรีบพาบุตรหลานของท่านไปฉีดวัคซีนโดยเร็ว
สำหรับกลุ่มเสี่ยง 608 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือฉีดเข็มสุดท้ายเกิน 6 เดือนแล้ว สามารถรับการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) ซึ่งจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในผู้ที่ตอบสนองต่อวัคซีนได้น้อยกว่าคนทั่วไป เมื่อฉีดเข้าไปแล้วร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อโควิดได้สูงทันทีหลังฉีด ส่วนผู้ที่ไปทำกิจกรรมในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด ควรหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้สูงอายุที่ยังไม้ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดเข็มสุดท้ายเกิน 6 เดือนแล้ว ให้งดกินข้าวร่วมกับผู้อื่น หรือไม่เข้าร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมากโดยไม่สวมหน้ากาก ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ เช่น โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และรถโดยสารขนส่งสาธารณะ รวมทั้งเมื่ออยู่ใกล้ชิดผู้สูงอายุ
