ปศุสัตว์ตามยึดเนื้อสัตว์-เครื่องในแช่ถังฟอร์มาลิน ส่งขายร้านหมูกระทะ 25,000 กิโลกรัม ส่งขายร้านหมูกระทะ-ร้านอาหารอีสาน 66 แห่ง ตะลึง! พบใบเสร็จสั่งของกว่า 2,300 ใบ เจ้าของยังไม่สามารถแสดงแหล่งที่มาได้ หวั่นไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค เสี่ยงแพร่เชื้อโรคระบาดสัตว์ร้ายแรง
วันนี้ (4 ธ.ค.65) นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เผยว่า ตนได้รับรายงานผลการเข้าตรวจสอบสถานประกอบกิจการผลิตแปรรูปวัตถุดิบเนื้อและเครื่องในสัตว์รายใหญ่แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีการลักลอบผลิตเนื้อสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตหวั่นแพร่โรคระบาดสัตว์ร้ายแรง ซึ่งการตรวจพบว่าสถานประกอบการดังกล่าว ไม่มีการขออนุญาตผลิตอาหาร ไม่มีเอกสารใบอนุญาตค้าซากสัตว์(ร.10) ไม่มีเอกสารเคลื่อนย้ายซากสัตว์(ร.3) และไม่มีเอกสารรับรองให้จำหน่ายเนื้อสัตว์(รน.) ซึ่งมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรคระบาด พ.ศ.2558 พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 พระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559
อีกทั้งยังพบการผลิตวัตถุดิบชิ้นส่วนเครื่องในโค ชิ้นส่วนเครื่องในหมู มีการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิต ประกอบด้วย ฟอร์มาลิน โซดาไฟ และไฮโดรเจนเปอร์อ๊อกไซด์ จึงได้ทำการยึดอายัดของกลางชิ้นส่วนเนื้อและเครื่องในหมูและโคที่อยู่ในสถานประกอบการและในตู้แช่เย็นคอนเทนเนอร์ จำนวนกว่า 25,000 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังยึดสารเคมีและแกนลอนบรรจุสารฟอร์มาลิน ขนาด 25 ลิตร จำนวนกว่า 50 แกนลอน รวมถึงได้ยึดใบเสร็จกว่า 2,300 ใบ ที่มีหลักฐานการขายให้กับลูกค้าร้านหมูกระทะ และร้านอาหารอีสาน จำนวนกว่า 66 ราย โดยในส่วนของชิ้นส่วนสไบนาง ที่ผลิตแปรรูปนั้นแช่อยู่ในถังน้ำผสมสารฟอร์มาลิน พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้สั่งยึดอายัดไว้ และเก็บตัวอย่างเนื้อและเครื่องในสัตว์ นำส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ สำนักตรวจสอบคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ เพื่อตรวจหาเชื้อโรคปนเปื้อนที่เป็นอันตรายและตรวจหาสารเคมีตกค้าง (ฟอร์มาลิน) โดยได้ให้เจ้าของกิจการห้ามโยกย้ายถ่ายเทของกลางที่อายัดไว้ และให้นำเอกสารที่เกี่ยวข้องมาแสดงภายใน 15 วัน หากไม่สามารถนำมาแสดงได้ จะดำเนินการทำลายด้วยการฝังหรือเผา และดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องจนถึงที่สุด
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ปศุสัตว์จังหวัดทั่วประเทศ ขยายผลตรวจสอบสถานประกอบการในลักษณะเดียวกันนี้ หากพบการกระทำผิดให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดต่อไปด้วย ในส่วนของประชาชน หากพบเห็นหรือต้องการแจ้งเบาะแสข้อมูลเพิ่มเติม สามารถแจ้งได้ที่แอปพลิเคชัน DLD 4.0 หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225-6888 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
