ข่าวเด็ด 7 สี - ช่วงขยายคดีดังวันนี้ พาไปเจาะลึกทุนจีนสีเทา ที่ถูกสังคมจับจ้องมาตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าจะมีเอี่ยวกับนักการเมืองอย่างไรหรือไม่ การกวาดล้างทุนจีนครั้งนี้ สุดท้ายจะจบลงอย่างไร ติดตามทิศทางเรื่องนี้กับคุณปราโมทย์ คำมา
วันนี้ ผมจะมาขยายคดีดังทุนจีนสีเทา ที่ต้องเรียกว่า ทลายกันข้ามเดือนเลยทีเดียว โดยในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีการบุกค้นยึดทรัพย์กันล็อตใหญ่
แต่นอกจากเรื่องยังไม่จบแล้ว ยังมีแนวโน้มจะลาม สะเทือนไปถึง VIP การเมืองกันด้วย มาไล่เรียงเรื่องนี้กันครับว่า เรื่องราวเป็นอย่างไร ผลกระทบที่ตามมาจะไปถึงใครบ้าง และกวาดล้างใหญ่กันขนาดนี้ ทุนจีนสีเทาในเมืองไทยจะหมดไปจริงหรือเปล่า
ความจริงเรื่องราวของแก๊งมาเฟียจากแดนมังกร ที่มาฝังตัวทำธุรกิจสีเทาในบ้านเรา ไม่ใช่เรื่องเพิ่งเกิดขึ้น แต่ที่เป็นคดีครึกโครม เพราะใช้บ่อนการพนัน ผับ บังหน้าค้ายาเสพติด จนเกิดเรื่องอื้อฉาวจากการบุกเข้าทลายผับจินหลิง ปลายเดือนที่แล้ว โดยมีข้อมูลเชื่อมโยงอดีตรัฐมนตรี มีเอี่ยวกับ 5 ทุนจีนสีเทา ซึ่งต่อมาในภายหลังก็มีการเปิดชื่อกันตรง ๆ จากคุณสันธนะ ประยูรรัตน์
ว่า อดีตรัฐมนตรีที่ถูกพูดถึง ไม่ใช่ใครที่ไหน คือ ผู้กองธรรมนัส หรือ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รู้จักทุนจีนกลุ่มนี้ ซึ่งต่อมาเจ้าตัวก็ออกมาปฏิเสธผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนที่จะเก็บตัวเงียบไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชน แม้จะยังมีเสียงวิจารณ์เชื่อมโยงข้อมูลอยู่ตลอดก็ตาม งานนี้จึงมีการจับตากันมากว่า ทลายทุนจีนสีเทาเที่ยวนี้ จะสะเทือนถึง VIP การเมืองหรือไม่
สำหรับ 5 ทุนจีนสีเทา ตอนนี้ถูกจับกุมแล้ว 4 กลุ่ม คือ กลุ่มตู้ห่าว, กลุ่มเดวิด, กลุ่มหยู่ฉางเฟ่ย และ กลุ่มโทนี เหลือ กลุ่มหมิง ยังลอยนวลอยู่ ซึ่งใน 4 นายทุนที่ถูกจับกุมแล้ว ขณะนี้มีคนเดียวที่ถูกตั้งข้อหาพัวพันยาเสพติด ที่เหลือส่วนใหญ่จะโดนข้อหาเป็นนอมินี
ตลอดหนึ่งเดือนเศษที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจออกปฏิบัติการกวาดล้างทุนจีนสีเทา ภายใต้ยุทธการ "ล้มไม้ค้ำ ลิดกิ่งก้าน" นำโดย บิ๊กต่อ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล และบิ๊กโจ๊ก พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล สองรอง ผบ.ตร. ลุยตรวจค้น ยึดทรัพย์ทุนจีนสีเทากันไปแล้วกว่า 6,000 ล้านบาท
โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการตรวจค้นเกือบ 50 จุด ใน 9 จังหวัด พบข้อมูลที่ชวนตกใจกับอาณาจักรทุนจีนสีเทา ควักเงินสดซื้อบ้านหรู แบบเหมาเกือบทั้งโครงการ ซึ่งส่วนนี้ก็มีการโยงถึงเจ้าของโครงการ ว่ามีนักการเมืองดังฟากฝ่ายค้านถือหุ้นใหญ่ อีกทั้งการได้สัญชาติไทยของ "ตู้ห่าว" ยังมีการให้ความเห็นชอบในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ด้วย ก่อนจะมาอนุมัติประกาศในราชกิจจานุเบกษาในรัฐบาลชุดปัจจุบัน เรื่องนี้จึงเรียกว่าถูกเชื่อมโยงถึง VIP การเมือง ทั้งขั้วรัฐบาลและฝ่ายค้าน
ส่วนทรัพย์สินของตู้ห่าว หลัก ๆ ก็จะเป็นบ้าน ที่ดิน ธุรกิจอีก 14 บริษัท รถยนต์ร้อยกว่าคัน ในจำนวน 14 บริษัท แค่บริษัท โมเดิร์นเจมส์ บริษัทเดียวก็มีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาทแล้ว
ซึ่งทรัพย์สินที่ยึดมาได้ทั้งหมดนี้ ตำรวจก็จะมีการทำรายงานส่งมอบให้กับสำนักงาน ปปช. และ ปปง. นำไปตรวจสอบหาที่มาของทรัพย์สินกันต่อไป
ซึ่งคดีนี้ก็ต้องบอกว่า อีกคนที่มีบทบาทนำคือ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่สั่งการมาตั้งแต่ต้น เมื่อมีผลคืบหน้า ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บิ๊กโจ๊ก ก็เข้ารายงานต่อนายกรัฐมนตรีด้วย ส่วนคดีต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร คุณมะลิ แซ่ฉิ่น ที่เกาะติดคดีมาตั้งแต่ต้น ไปสอบถามมาให้แล้ว
แม้ว่าทางตำรวจจะยืนยันเอาจริงเอาจัง กวาดล้างทุนจีนสีเทา แต่ในมุมมองของคนที่มีบทบาทสำคัญกดดันให้มีการกวาดล้างทุนจีนสีเทา อย่างนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ก็ยังไม่พอใจ เพราะยังสาวไม่ถึงตัวการใหญ่คนไทยที่อยู่เบื้องหลัง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก็เลยหอบเอกสารเส้นทางการเงินของตู้ห่าว ไปมอบให้กับตำรวจอีกครั้ง และยืนยันว่ามีความแม่นยำ 100% สามารถบ่งชี้ว่า ตู้ห่าว มีความสัมพันธ์กับบุคคลใดบ้าง
และคุณชูวิทย์ ก็ยืนยันว่า การที่ออกมาเปิดโปงแบบดับเครื่องชนในครั้งนี้ ไม่ได้มีประโยชน์แอบแฝงอะไร เพียงแค่อยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ก็ต้องบอกเลยว่าเรื่องนี้ก็คงยังไม่จบง่าย ๆ เพราะในทางคดีแม้จะเตรียมปิดจ็อบภายในสามสัปดาห์ แต่ยังมีการจับจ้องตลอดว่า สุดท้ายคดีนี้จะสะเทือนถึง VIP การเมือง หรือจะจบแบบไม่มีอะไรในกอไผ่ และแน่นอนว่า สัปดาห์หน้า เรื่องราวของทุนจีนสีเทา ยังมีของดีให้ดู นี่ก็คือทั้งหมดของการขยายคดีดัง ทุนจีนสีเทา
