สนามข่าว 7 สี - ตำรวจตามจับคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์หญิงอายุ 54 ปี อดีตแอร์โฮสเตสในบ้านพัก ย่านบึงกุ่ม เจ้าตัวรับสารภาพ รับเหมาเข้าไปซ่อมท่อประปาให้กับหญิงเจ้าของบ้าน แต่เกิดความโลภเห็นเงินในบัญชี จึงหวนกลับมาก่อเหตุ
พลตำรวจตรี อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เข้าสอบปากคำ นายวิรุฬห์ หรือ โย อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และชิงทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หลังไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพักในตำบลบางรักพัฒนา อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี
พลตำรวจตรี อรรถพล เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา ตำรวจ สน.โคกคราม รับแจ้งเหตุฆาตกรรมภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านบึงกุ่ม กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุพบหญิงเจ้าของบ้าน อายุ 54 ปี อดีตแอร์โฮสเตสถูกฆ่าโหด คนร้ายมัดมือผู้เสียชีวิตไพล่หลัง และใช้เทปกาวพันรัดที่ลำคอ แล้วใช้มีดแทงตามร่างกายหลายแห่ง เสียชีวิตในห้องน้ำชั้นล่างของบ้าน
หลังเกิดเหตุตำรวจพบว่าคนร้ายได้ลักทรัพย์ไปเป็นรถยนต์ 1 คัน พร้อมกับทรัพย์สินหลายรายการ โดยเฉพาะไอแพดและโทรศัพท์มือถือ ต่อมาฝ่ายสืบสวนได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดรอบที่เกิดเหตุย้อนหลัง ก่อนจะไปพบว่า ช่วงบ่ายของวันที่ 30 พฤศจิกายน คนร้ายเป็นชาย 1 คน ขับรถสีขาวมาจอดใกล้บ้านผู้เสียชีวิต จากนั้นได้เดินไปหาผู้เสียชีวิตที่บ้านที่เกิดเหตุ และได้เข้าไปภายในบ้าน ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ชายคนดังกล่าวได้ขับรถยนต์สีน้ำเงินของผู้เสียชีวิตออกจากหมู่บ้านไป โดยทิ้งรถที่ขับมาไว้ในหมู่บ้าน เมื่อตำรวจไปตรวจสอบบัตรที่แลกเข้า-ออกหมู่บ้าน จึงทราบชื่อชายที่ก่อเหตุ คือ นายวิรุฬห์ จึงขอศาลออกหมายจับ ก่อนไปจับกุมตัวที่บ้าน
จากการสอบสวน นายวิรุฬห์ รับสารภาพว่า ผู้ตายมักว่าจ้างให้เข้าไปซ่อมประปาในบ้านที่เกิดเหตุหลายครั้ง จ่ายเงินด้วยการโอนผ่านแอปพลิเคชันในไอแพด พอเห็นรหัสเข้าบัญชีและเงินในบัญชีจึงเกิดความโลภ ประกอบกับผู้เสียชีวิตอยู่คนเดียว ขณะก่อเหตุผู้ตายขัดขืนต่อสู้ จึงลงมืออย่างโหดเหี้ยม
ส่วนไอแพดของผู้ตายเมื่อได้ไปก็นำไปแสกนใช้จ่ายรวม 600,000 บาท ส่วนใหญ่นำไปซื้อทอง แบ่งเป็นสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 10 บาท 1 เส้น, สร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนัก 5 บาท 1 เส้น และทองคำแผ่น น้ำหนัก 1 สลึง 1 แผ่น มาเก็บไว้ อีกส่วนไปเล่นพนันออนไลน์ หลังจากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวไปฝากขังต่อศาลฯ
ขณะที่ ญาติของผู้เสียชีวิตได้นำกระเช้าไปมอบให้กับตำรวจ เพื่อขอบคุณที่จับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว
